ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบชีวิตสุดแสนรำเค็ญ ที่เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ของหญิงคนหนึ่งชื่อ เอ (นามสมมุตติ) อายุ 15 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ตำบลโนนเหม่า อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเก่า หลังคามุงจาบกึ่งสังกะสี ชำรุดทรุดโทรม ไม่มีไฟฟ้าใช้กลางคืนต้องอาศัยแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมัน และเทียนไขโดยพระที่วัดบริจาคมาให้
น้องเอ ต้องทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยเลี้ยงดูแม่ที่พิการเป็นอัมพาต เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตกช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อีกทั้งต้องคอยดูแลน้องชายอีก 1คนวัย 5 ขวบไปพร้อมๆกัน ซึ่งทุกเช้าหลังจากที่ทำภารกิจในบ้านเสร็จเรียบร้อย ก็จะออกจากบ้านเพื่อเข้าไปหาเก็บเห็ด และหน่อไม้ ในป่าท้ายบ้าน เพื่อนำกลับมาประกอบอาหารในช่วงมื้อค่ำ และช่วงที่คุณแม่นอนหลับพักผ่อนในแต่ละวันก็จะปลีกเวลาเพื่อไปรับจ้างทั่วไป ส่วนพ่อต้องออกไปขายแรงงานในเมือง รายได้จากการทำงานเฉลี่ยวันละ 100-200 บาทเท่านั้น
โดยเมื่อปีที่แล้ว น้องเอถูกกลุ่มชายภายในหมู่บ้านจำนวน 11คน ได้ร่วมกันรุมข่มขืน ซึ่งในเวลาต่อมา 8 ราย ได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และศาลตัดสินให้รับโทษตามกฎหมาย ส่วนที่เหลือยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ที่ผ่านมา น้องเอได้เข้าขอความช่วยเหลือองค์กรต่างๆ แต่จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมานานกว่า 1ปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แต่เพียงแจ้งว่ายังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันน้องเอได้ยุติการเรียน เนื่องจากปัญหารุมเร้ามากเกินกว่าที่น้องจะหาทางออกได้
น้องเอ เผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า เหมือนฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนทุกคืน พยายามที่จะหาทางออกด้วยการพาแม่ที่พิการและน้องหนีออกมาจากชุมชน มาอาศัยกลางป่าโดยปลูกกระท่อมอาศัย อาศัยหาของป่าประทังชีวิตไปวันๆ ในยามค่ำคืนต้องอาศัยแสงสว่างจากตะเกียงและเทียนจากหลวงพ่อที่ชาวบ้านนำมาถวายวันเข้าพรรษา นำมาจุดไล่ความมืดเท่านั้น หวังว่าจะมีหน่วยงานยื่นมือให้การช่วยเหลือเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม