วานนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวช่อง3 ได้รับแจ้งจาก ร้อยตำรวจโทฤกษ์ชัย สารจันทร์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่ามีหญิงสาวพิการเป็นใบ้ เข้าแจ้งความว่ากำลังตามหามารดาที่สูญหายและพลัดพรากจากกันนานถึง 15 ปี
นางสาวพิจิตรา อานุ หรือ เมืองไทยเจริญ อายุ 24 ปี สาวพิการเป็นใบ้ ใช้การสื่อสารกันด้วยภาษาเขียน เปิดเผยว่า ตอนที่ตนอายุได้ 9 ขวบ มารดาของตนชื่อ นางเดรี่ คำไสย อายุ 47 ปี ภูมิลำเนาเดิม อยู่ที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ทิ้งตนไว้ที่มูลนิธิคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ แล้วไม่กลับมาหาอีกเลย ส่วนพ่อ ก็แยกทางกับแม่ตั้งแต่ตนเล็กๆ หลังจากที่แม่ทิ้งไป ตนก็อาศัยอยู่ที่มูลนิธิมาโดยตลอด เรียนเขียนภาษาและการใช้ภาษามือ จนพอสื่อสารได้
ปัจจุบันตนแต่งงานกับนายไอ่จ๋า อานุ อายุ 26 ปี หนุ่มพิการเป็นใบ้ที่เคยอยู่ในมูลนิธิเดียวกัน จากนั้นย้ายไปอยู่กับสามีที่บ้านใน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้านี้ตนเคยไปขอค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของมารดาที่สำนักทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงดาว พบว่ามารดาเข้ามาอาศัยอยู่ที่อำเภอปายตั้งแต่ปี 2554 จึงตัดสินใจชวนแฟนและเพื่อน ขับมอเตอร์ไซค์ เดินทางมาตามหามารดาที่ อำเภอปาย หวังว่าจะได้เจอหน้าแม่ที่พลัดพรากจากกันมานานถึง 15 ปี ยิ่งช่วงนี้ใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติ ตนยิ่งรู้สึกคิดถึงแม่ อยากเห็นหน้าแม่อีกสักครั้ง อยากรู้ว่าเป็นอยู่อย่างไร
หลังจากนั้นนางสาวพิจิตรา และเพื่อนก็เดินทางไปที่ค่าย ร.7 พัน 5 เพื่อตามหาข้อมูลมารดาเพิ่มเติม จากการสอบถามผู้ที่เคยรู้จัก ทราบว่า ก่อนหน้านี้นางเดลี่ เคยอาศัยอยู่กินกับสามีที่เป็นทหาร โดยอาศัยอยู่บ้านพักราชการทหาร ที่ค่าย ร.7 พัน 5 แต่หลังจากสามีเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นางเดลี่ก็ย้ายออกไปโดยบอกคนรู้จักว่าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ และก็ไม่กลับมาอีกเลย ไม่มีใครติดต่อได้อีก รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่เคยมีก็ติดต่อไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย รับเรื่องเอาไว้ และยืนยันว่าจะช่วยติดตามหาเบาะแสของนางเดลี่ เพื่อช่วยให้แม่ลูกได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง