สำนักข่าว metro รายงานข่าว แจสเปอร์ อเลน เด็กชายชาวอังกฤษ วัย 2 ขวบ ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 5 วัน หลังป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสซึ่งมีความรุนแรงกว่าปกติ มีตุ่มผุดขึ้นทุกตารางนิ้วบนร่างกายจนกลายเป็นการติดเชื้ออย่างรุนแรง
ซาร่าห์ อเลน คุณแม่ของหนูน้อย เล่าว่า เธอพาตัวลูกชายมาหาแพทย์ทันทีที่พบความผิดปกติ แต่กลับถูกปฏิเสธนัดเพราะพนักงานต้อนรับคิดว่าอาการของเขาไม่ได้มีความรุนแรงมากพอ โดยครั้งแรกที่เธอเรียกร้องให้ลูกได้พบแพทย์เนื่องจากเป็นอีสุกอีใส ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าพ่อแม่ทุกคนก็รู้สึกกังวลใจเมื่อลูกเป็นอีสุกอีใสจนเกินเหตุ แต่จากประสบการณ์ของแม่ลูกสองแล้ว เธอแน่ใจว่าอาการที่ลูกชายกำลังเผชิญนั้นไม่ได้อยู่ในภาวะปกติอย่างแน่นอน และเรียกร้องว่าพวกเขาควรจะฟังคำพูดของพ่อแม่มากกว่านี้ เพราะรู้จักลูกของตัวเองดีกว่าใคร
ซาร่าห์สังเกตเห็นจุดขึ้นบนตัวของลูกชายประมาณวันที่ 12 ก.ค. ก่อนมันจะพัฒนาจนกลายเป็นอีสุกอีใสในสัปดาห์ต่อมา กระทั่งเช้าวันหนึ่งที่ลูกมีตุ่มผุดขึ้นมานับร้อยทำให้เธอตัดสินใจพาตัวเขามาโรงพยาบาล และได้รับการรักษาด้วยการให้ยาต้านไวรัส ยาปฏิชีวนะและมอร์ฟีนในที่สุด ซึ่งย้อนไปตอนนั้นแม้เธอจะรู้สึกกลัวแต่ก็โล่งใจเพราะลูกได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์แล้ว
คุณแม่ลูกสองเล่าอีกด้วยว่า เธอไม่สามารถกอดลูกได้ถึง 3 วัน เพราะทุกครั้งที่มีใครไปสัมผัสตัวเขาก็จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของคนเป็นแม่ที่ไม่สามารถแบ่งเบาความทุกข์ทรมานของลูกได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสลงในตารางการฉีดวัคซีนของเด็กเหมือนกับหลายประเทศในยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
ขณะแพทย์ผู้ทำการรักษายังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดหนูน้อยจึงมีอาการป่วยที่รุนแรงขนาดนี้และกำลังอยู่ระหว่างการสแกนหัวใจเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผลกระทบเกิดขึ้นกับเขาในอนาคต
ด้านโฆษกกรมอนามัยออกชี้แจงว่า อีสุกอีใสเป็นโรคที่ไม่รุนแรงในเด็กและสามารถหายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่การฉีดวัคซีนมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยที่มีความรุนแรง