ไม่ธรรมดา! 'เวลส์' พลิกล็อกเชือดนิ่ม 'เบลเยียม' ทะลุตัดเชือกดวลโปรตุเกส
logo ข่าวอัพเดท

ไม่ธรรมดา! 'เวลส์' พลิกล็อกเชือดนิ่ม 'เบลเยียม' ทะลุตัดเชือกดวลโปรตุเกส

ข่าวอัพเดท : การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร2016 คืนวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ที่ 2 ระหว่าง มังกรแดง เวลส์ เวลส์,เบลเยียม,ยูโร2016,ฟุตบอลยูโร,ยูโร,บอลยูโร,ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป,ผลบอล,ผลบอลยูโร,โปรตุเกส,เบล

7,892 ครั้ง
|
02 ก.ค. 2559

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” คืนวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่ที่ 2 ระหว่าง “มังกรแดง” เวลส์ ลงสนามพบ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่สต๊าด ปิแอร์ มัวรอย เมืองลีลล์ ประเทศฝรั่งเศส

 

                ทีมมังกรแดง “เวลส์” เฉือนชนะไอร์แลนด์เหนือ มาอย่างหวุดหวิด 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้ารอบมาอย่างหืดจับ เกมนี้กุนซือคริส โคลแมน จัดทัพในระบบ 3-5-2 อย่างที่ถนัด ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู เวย์น เฮนเนสซี กองหลัง เบน เดวีส์, แอชลีย์ วิลเลียมส์, เจมส์ เชสเตอร์ โดยมี นีล เทย์เลอร์, คริส กุนเทอร์ เป็นวิงแบ๊คสองข้าง ส่วนกองกลางใช้ อารอน แรมซีย์, โจ อัลเลน, โจ เลดลีย์ และกองหน้าใช้แกเร็ธ เบล จับคู่กับ ฮาล ร็อบสัน-คานู

 

                ด้าน เบลเยียม ผ่านสโลวาเกียมาอย่างสบายๆในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังไล่ต้อนคู่แข่งไปขาดลอย 4-0 เกมนี้กุนซือมาร์ค วิลม็อตส์ จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ธิโบต์ กูร์ตัวส์ กองหลัง โธมัส มูนิเยร์, โทบี อันเดอร์ไวเรลด์, เจสัน เดนาเยอร์, จอร์แดน ลูกากู โดยมี รัดย่า นาอิงโกลัน กับ อาเซล วิตเซล คุมเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุกใช้ ยานนิก คาร์ราสโก, เควิน เดอ บรอยน์, เอเด็น อาซาร์ และศูนย์หน้าตัวเป้าใช้โรเมลู ลูกากู

 

                เริ่มเกมเป็นเบลเยียมที่ดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ครองบอลได้เยอะกว่า มีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าเวลส์ และใช้เวลาเพียง 13 นาที ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงไกลสุดสวยระยะ 30 หลา ของรัดย่า นาอิงโกลัน ที่ซัดเต็มข้อบอลพรุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม

 

                หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ดูเหมือนเบลเยียมจะผ่อนเกมลงไป ทำให้เวลส์มีโอกาสลุ้นประตูมากขึ้น และในนาทีที่ 31 เวลส์ ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็นแอชลีย์ วิลเลียมส์ โหม่งเข้าไป ก่อนจะจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 1-1

 

                ในครึ่งเวลาหลัง ยังคงเป็นเบลเยียม ที่เล่นได้ดีกว่า ครองบอลได้เยอะกว่า แต่ไม่มีโอกาสจบสกอร์เท่าที่ควร ส่วนทีมมังกรแดงอาศัยจังหวะโต้กลับคอยเล่นงานแผงหลังเบลเยียมอยู่เป็นระรอก

 

                เกมมาถึงนาทีที่ 55 เวลส์ ที่บุกน้อยกว่า แต่มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่อารอน แรมซีย์ ได้บอลทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ฮาล ร็อบสัน-คานู จับบอลลงอย่างเยือกเย็น ก่อนพลิกหลบกองหลังเบลเยียม 3 คน ก่อนจะยิงผ่านมือธิโบต์ กูร์ตัวส์ เข้าประตูไปอย่างสุดยอด

 

                หลังจากโดนขึ้นนำ เบลเยียม เปิดเกมบุกเข้าใส่เวลส์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ทำอะไรแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมมังกรแดงไม่ได้ และช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 เวลส์ ก็อาศัยจังหวะโต้กลับเร็ว มาทำประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากลูกโหม่งของ แซม โวล์ค ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง

 

                หลังจากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบเกมเวลส์ พลิกล็อกเอาชนะ เบลเยียม ไปด้วยสกอร์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เข้าไปเจอกับ โปรตุเกส ในคืนวันที่ 6 (เช้าวันที่ 7 ) กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00น. ตามเวลาไทย