'ฝอยทอง' แม่นโทษ เชือดโปแลนด์ ตีตั๋ว 4 ทีมสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส คืนวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นเกมการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่แรก ระหว่าง โปแลนด์ พบ โปรตุเกส ที่สต๊าด เวโรโดม เมืองมาร์กเซย

                โปแลนด์ เอาชนะการดวลจุดโทษต่อสวิตเซอร์แลนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้ารอบมาอย่างหืดจับ ถือเป็นการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

                เกมนี้กุนซืออดัม นาวาลก้า จัดทัพในระบบ 4-4-2 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ลูคัส ฟาเบียนสกี กองหลัง มิเชล ปาซดาน, คามิล กลิก, อาร์เธอร์ เจเซชิก, ลูคัส พิสซ์เช็ก กองกลาง คามิล โกรซิกกี, คริซตอฟ มัคซินสกี, กรีกอร์ซ ครีโชเวียค, ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี ส่วนคู่กองหน้าใช้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และอาร์คาดิอุซ มิลิก

                ด้าน โปรตุเกส เฉือนชนะโครเอเชียมาในช่วงต่อเวลาพิเศษ จากประตูชัยของริคาร์โด กวาเรสม่า ผ่านเข้ามาสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 7 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

                เฟร์นันโด ซานโตส มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นเล็กน้อย หลังผู้เล่นหลายคนเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน จัดทัพในระบบ 4-1-3-2 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู รุย พาทริซิโอ กองหลัง เปเป, โฆเซ่ ฟอนเต, เอลิเซอู, เซดริก โดยมีวิลเลียม คาร์วัลโญ่ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และใช้เจา มาริโอ, เรนาโต ซานเชส, อาเดรียน ซิลวา เป็น 3 แนวรุก ส่วนศูนย์หน้าเป็นคู่เดิมอย่างคริสเตียโน โรนัลโด และนานี

                เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที โปแลนด์ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากการที่กองหลังโปรตุเกสประกบตัวกันค่อนข้างหลวม และเป็นโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ได้ยิงในกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างเด็ดขาด

                หลังจากเสียประตู โปรตุเกส พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังประตูตีเสมอ และก็มาประสบความสำเร็จ ในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่เรนาโต ซานเชส ทำชิ่ง 1-2 กับนานี หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมฝอยทองไล่ตีเสมอ 1-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

                ในครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมไม่ผลีผลามบุกเข้าใส่กันเท่าไหร่ เล่นกันอย่างรัดกุมและระมัดระวัง โดยเป็นโปรตุเกส ที่ครองบอลได้เยอะกว่า และมีโอกาสเยอะกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

                ช่วงต่อเวลาพิเศษ เป็นทีมฝอยทองที่มีโอกาสทำประตูมากกว่าอย่างเห็นได้  แต่ก็ยังทำอะไรแนวรับที่แข็งแกร่งของโปแลนด์ไม่ได้ จบ 120 นาที ก็ยังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ

                ในการดวลลูกจุดโทษ ปรากฏว่า โปรตุเกสยิงได้แม่นกว่า ไม่พลาดแม้แต่คนเดียว ส่วนโปแลนด์ ยาคุบ บลาสซิคอฟสกี ยิงพลาดในคนที่ 4 จบเกม โปรตุเกส เอาชนะในการดวลจุดโทษไป 5-3 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 1-1

                ส่งผลให้โปรตุเกส ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เวลส์ หรือเบลเยียม