การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 25 มิถุนายน คู่ที่สาม เป็นเกมระหว่าง “ตราหมากรุก” โปรตุเกส แชมป์กลุ่ม D ลงสนามพบ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม F
อันเต ซาซิช กุนซือใหญ่ทีมโครแอต จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ดานิเฆล ซูบาซิช กองหลัง ดาริโอ เซอร์นา, เวอร์ดาน ชอร์ลูกา, ดามาโกจ์ วิดา, อิวาน สตรินิช โดยมี มิลาน บาเดลจ์, ลูกา โมดริช คุมเกมแดนกลาง ส่วน อิวาน เปริซิช, อิวาน ราคิติช, มาร์เชโล โบรโซวิช เป็น 3 แนวรุก และใช้ มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
ด้าน เฟร์นานโด ซานโตส เฮดโค้ชทีมฝอยทอง จัดทัพในระบบ 4-4-2 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู รุย พาทริซิโอ กองหลัง เซดริก โซอาเรส, โฆเซ ฟอนเต, เปเป, ราฟาเอล เกอร์เรโร่ กองกลาง เจา มาริโอ, อาเดรียน ซิลวา, วิลเลียมส์ คาร์วัลโญ่, อังเดร โกเมส โดยศูนย์หน้าใช้ คริสเตียโน่ โรนัลโด จับคู่กับนานี
เริ่มเกมทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี เป็นฝั่งทีมโครแอตที่ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย พยายามหาช่องเจาะแนวรับของทีมฝอยทอง ที่มาเน้นตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและอาศัยจังหวะโต้กลับเร็ว แต่จบครึ่งเวลาแรกไม่มีใครทำอะไรกันได้ เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง ยังคงเป็นทีมตราหมากรุกที่ครองบอลได้เยอะกว่าเล็กน้อย แต่ทางฝั่งโปรตุเกสแก้เกมมาได้ดีขึ้น มีโอกาสบุกเข้าใส่โครเอเชียมากขึ้นกว่าในครึ่งเวลาแรก แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ต่างฝ่ายต่างเล่นกันอย่างรัดกุม ไม่ผลีผลามบุกกันเท่าที่ควร รูปเกมดูตื้อๆไปทั้งคู่ เกมทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์ 0-0
แต่แล้วช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 117 โปรตุเกส มาได้ประตูชัยจนได้ จากจังหวะโต้กลับเร็ว คริสเตียโน โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาไปติดเซฟของซูบาซิช แต่บอลมาเข้าทางริคาร์โด ควอเรสม่า ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง โหม่งจ่อๆเข้าประตูไป ช่วยให้โปรตุเกส เฉือนชนะ โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปอย่างหวุดหวิด 1-0
ทีมฝอยทอง ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ โดยจะผ่านเข้าไปพบกับ โปแลนด์ ที่เอาชนะสวิตเซอร์แลนด์มาในการดวลจุดโทษ วันที่ 30 มิถุนายนนี้