ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 11 มิถุนายน คู่ที่ 3 เป็นเกมการแข่งขันในกลุ่ม B ระหว่าง “สิงโตคำราม” อังกฤษ พบ “หมีขาว” รัสเซีย ที่สต๊าด เวโรโดรม เมืองมาร์กเซย
รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือใหญ่ทีมสิงโตคำราม จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สดลงสนามเป็น 11 ตัวจริง มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โจ ฮาร์ท กองหลัง แดนนี่ โรส, คริส สมอลลิง, แกรี่ เคฮิลล์, ไคล์ วอล์คเกอร์ กองกลาง อีริค ไดเออร์, เวย์น รูนีย์, เดลเล่ อัลลี โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง, อดัม ลัลลานา และแฮรี่ เคน เป็น 3 แนวรุก
ด้าน วิคเตอร์ สลุตสกี เฮดโค้ชทีมหมีขาว ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเล่นเดียวกัน ในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อิกอร์ อคินฟิเยฟ กองหลัง วาสซิลี เบเรซุตสกี, เซอร์เกย์ อิกนาเชวิช, อิกอร์ สโมลนิคอฟ, จอร์จี เชนนิคอฟ กองกลาง โรมัน นอยสตัดเตอร์, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน โดยมี อเล็กซานเดอร์ โคโคริน, ฟิโอดอร์ สโมลอฟ, โอเล็ก ชาตอฟ เป็น 3 แนวรุก และใช้อาร์เต็ม ดซูบา เป็นหน้าตัวเป้า
เริ่มเกม เป็นทีมสิงโตคำราม ที่ดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ครองเกมได้เยอะกว่า มีโอกาสลุ้นประตูขึ้นนำหลายครั้ง แต่ยังเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมหมีขาวไม่ได้
ขณะที่ทีมหมีขาว อาศัยจังหวะโต้กลับ คอยเล่นงานแผงหลังอังกฤษ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกัน ก่อนจะจบครี่งแรกด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งเวลาหลัง รัสเซีย แก้เกมมาได้ดี เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่อังกฤษได้บ่อยครั้ง แต่ก็ยังทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา แต่แล้วในนาทีที่ 73 อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำ จากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ และเป็นอิริก ไดเออร์ ยิงเข้าไปให้ทีมสิงโตคำรามออกนำ 1-0
หลังจากนั้นเกมทำท่าเหมือนจะจบด้วยชัยชนะของทีมชาติอังกฤษ แต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2 วาสซิลี เบเรซุตสกี มาทำประตูตีเสมอ 1-1 ให้รัสเซียได้สำเร็จ ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ ส่งผลให้ทีมสิงโตคำรามพลาดเก็บ 3 แต้มอย่างน่าเสียดาย และทำให้อังกฤษ ไม่ชนะในการแข่งขันแมตช์แรกของฟุตบอลยูโร มา 9 ครั้งติดต่อกัน
สถานการณ์ในกลุ่ม B เวลส์ นำจ่าฝูง มี 3 แต้ม ส่วนอังกฤษ และรัสเซีย มีทีมละ 1 แต้ม ส่วนสโลวาเกีย ยังไม่มีคะแนน