ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 11 มิถุนายน คู่ที่ 2 เป็นเกมการแข่งขันในกลุ่ม B ระหว่าง เวลส์ พบ สโลวาเกีย ที่สนามสต๊าด เดอ บ็อกโดซ์ เมืองบ็อกโดซ์
เวลส์ ผ่านเข้ามาเล่นศึกฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คริส โคลแมน กุนซือใหญ่ ส่ง 11 ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ลงประเดิมสนามในยูโร 2016 โดยมาในระบบ 3-5-2 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ดาเนียล วอร์ด โดยมี แอชลีย์ วิลเลี่ยมส์, เจมส์ เชสเตอร์, เบส เดวีย์ ยืนเป็น 3 กองหลัง และใช้ นีล เทย์เลอร์, คริส กุนเตอร์ เป็น 2 วิงแบ็ก ส่วนกองกลาง ใช้ โจ อัลเลน, เดวิด เอ็ดเวิร์ด, อารอน แรมซีย์ และคู่กองหน้า ใช้งาน แกเร็ธ เบล ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม ประสานงานร่วมกับ โจนาธาน วิลเลียมส์
ด้าน สโลวาเกีย ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน โดยกุนซือ แยน โคซัค ส่งผู้เล่น 11 ตัวจริง ในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู มาทัส โคซาซิช กองหลัง มาร์ติน สเคอร์เทล, แยน ดูริก้า, ปีเตอร์ เปคาริค, ดูซาน สเวนโต้ มี จูราจ์ คุชก้า, ปาทริค ฮรูฟสกี คุมเกมแดนกลาง และใช้ โรเบิร์ค มัก, มาเร็ก ฮัมซิค, วลาดิเมียร์ ไวส์ เป็น 3 แนวรุก โดยปล่อยให้ มิเชล ดูริส เป็นกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี มีโอกาสลุ้นประตูพอๆกัน แต่ทีมชาติเวลส์ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 10 จากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ของแกเร็ธ เบล ที่ยิงเข้าไปอย่างสวยงาม
หลังจากเสียประตู ยังเป็นเวลส์ ที่เล่นได้ดีกว่า มีโอกาสทำประตูที่สองหลายครั้ง แต่ก็ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0
ครึ่งเวลาหลัง สโลวาเกีย แก้เกมมาได้ดี เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่เวลส์อย่างต่อเนื่อง จนความพยายามมาประสบผลสำเร็จ ในนาทีที่ 61 ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการยิงด้วยซ้ายของ อองเดรจ์ ดูด้า ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง
อย่างไรก็ตาม ทีมชาติเวลส์ ก็ยังไม่ยอมแพ้ เปิดเกมบุกเข้าใส่สโลวาเกียอย่างต่อเนื่อง จนมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 82 จากการยิงของ ฮาล-ร็อบสัน คานู ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง และจบเกม เวลส์ เฉือนชนะ สโลวาเกียไปอย่างสนุก 2-1