พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่ ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย ว่าวันนี้มีความสุขที่ชาวบ้านเข้าใจนโยบายประขารัฐ ยอมปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรรูปแบบใหม่ โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุน เห็นได้จากการพารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาพบกับประชาชนได้พูดคุยกับชาวบ้าน ต่างจากเมื่อก่อนที่ตนจะเป็นคนพูดเพียงคนเดียว วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง ไม่ได้มาให้เงิน แต่มาเพื่อให้การเรียนรู้ เพื่ออนาคตของลูกหลาน
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชิมอาหารของชาวบ้าน จนทีม รปภ. เป็นห่วงว่าท้องเสีย แต่เพื่อประชาชนตนยอมตาย ดังนั้นใครจะมารังแกหรือรังเกียจตนไม่ได้
ขณะเดียวกัน อยากให้เกษตรกรทั่วประเทศปรับตัวกับสถานการณ์ และอย่านึกถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว ต้องนึกถึงประเทศชาติด้วยจึงจะได้ความร่วมมือกลับมา วันนี้ประเทศมีปัญหาความขัดแย้งด้านงบประมาณและสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นสินค้าเกษตรต้องปรับปรุงรูปแบบใหม่ จะขายแบบเดิมๆ ไม่ได้
ทั้งนี้ตลอดเวลาที่นายกรัฐมนตรีพูดคุยบนเวที ได้กล่าวเน้นย้ำถึงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ เพราะผู้จัดงานใช้เต้นท์ผิดประเภททำให้ชาวบ้านต้องหนีกลับก่อนไม่รอฟังตนพูด พร้อมพูดติดตลกหากต้องตายวันนี้ เพราะอากาศร้อนก็ยอมเพื่อประชาชน และบอกด้วยว่าตัวจริงไม่ใช่คนดุแต่ถ้าใครมาทำร้ายบ้านเมืองจะไม่ยอมอย่างแน่นอน
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวชี้แจงสถานการณ์เศรษฐกิจว่า ลำบากไปทั่วโลก รัฐบาลทำได้แค่จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ประชาชนต้องร่วมมือเป็นประชารัฐ โดยปรับเปลี่ยนการทำการเกษตร หันมาปลูกพืชทดแทน
โดยรัฐบาลจะส่งพ่อค้าจากตลาดกลางมารับซื้อถึงที่ เพื่อระบายผลผลิตพร้อมทั้งส่งเสริมรายได้จากส่วนอื่น เช่น การท่องเที่ยวระดับตำบล โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำให้เกษตรกรเป็นเฒ่าแก่น้อย ซึ่งรัฐบาลไม่ว่าถ้าประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใด แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเลือกตั้ง ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่อการปลุกปั่นโจมตีรัฐบาล เพราะไม่เกิดประโยชน์ ที่ผ่านคนไทยทะเลาะกันเองมา10 ปี แล้ว จนประเทศเพื่อนบ้านจะข้ามหัวแล้ว
จากนั่นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้ขึ้นรถอีแต๊กเยี่ยมชมแปลงสาธิตของชาวบ้านและปลูกส้มโอเป็นที่ระลึก ก่อนเดินทางไปประชุม กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ที่มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
+ อ่านเพิ่มเติม