น้า ด.ญ.15 มือโพสต์ภาพตั้งด่านลอยเข้าพบตร. อ้างโมโหแทนหลานสาว

7,512 ครั้ง

12 ต.ค. 2558

แชร์ข่าวไปที่

ผู้โพสต์ภาพกล่าวหาตำรวจตั้งด่านลอย ย่านบางนาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวจริง เนื่องจากโมโหภายหลังรับฟังข้อมูลจากหลานสาววัย 15 ปี ผู้ประสบเหตุเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ฝั่งตำรวจเตรียมพิจารณาดำเนินคดีฐานเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์

นายเฉลิมพงศ์ ปทะมาสริน น้าชายของเยาวชนหญิงวัย 15 ปีที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนด่านตรวจย่านบางนาเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ในฐานะผู้โพสต์ภาพและระบุข้อความกล่าวหาตำรวจตั้งด่านลอย รีดไถประชาชน ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เดินทางเข้าพบพลตำรวจตรีอดุลย์ ณรงศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโพสต์ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังพบว่ารูปภาพที่มีการโพสต์มีการระบุข้อความกล่าวหาตำรวจตั้งด่านลอย สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์วงการตำรวจ

โดยเบื้องต้นพลตำรวจตรีอดุลย์ ได้นำหลักฐานข้อมูลการตั้งด่านตรวจในวันเกิดเหตุอย่างถูกต้องรวมถึงคลิปวิดีโอในขณะเกิดเหตุมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับนายเฉลิมพงศ์ว่าการปฎิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจเป็นไปด้วยความถูกต้อง ซึ่งหลังพูดคุยและทำความเข้าใจราว 20 นาที นายเฉลิมพงศ์กล่าวยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ภาพและระบุข้อความกล่าวหาตำรวจผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์จริง เนื่องจากโมโหภายหลังได้รับฟังข้อเท็จจริงจากหลายสาวเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีการไตร่ตรองข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง พร้อมกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ ที่ตัดสินใจโพสต์ภาพและข้อความโดยพลการ

ขณะที่พลตำรวจตรีอดุลย์ ระบุ แม้ผู้โพสต์จะยอมรับผิดและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจเป็นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการพิจารณาดำเนินคดีในความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 มาตรา 14 ว่าด้วยการนำเข้าข้อมูลปลอมเข้าสู่คอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหาย เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณาว่าผู้โพสต์ได้จงใจกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดพนักงานสอบสวนจะพิจารณาตามพยานหลักฐานที่มีโดยคาดจะทราบผลใน 2-3 วัน

แชร์ข่าวไปที่

บางนา

ด่านลอย

ตำรวจ

ตั้งด่าน

เยาวชน

รถล้ม

พรบคอมพิวเตอร์

กฎหมาย