ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 'หมูแฮม' 2 ปี 1 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีขับรถชนคนตายปี 50
logo ข่าวอัพเดท

ศาลฎีกาตัดสินจำคุก 'หมูแฮม' 2 ปี 1 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีขับรถชนคนตายปี 50

ข่าวอัพเดท : ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก หมูแฮม 2 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากคดีขับรถชนผู้อื่นเสียชีวิต เมื่อปี 2550 ด้านญาติผู้ตายเผยดีใจการต่อสู้คดีใ หมูแฮม,ขับรถ,อุบัติเหตุ,ยาเสพติด,เสียชีวิต,ติดคุก

5,523 ครั้ง
|
18 ก.ย. 2558
ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก  'หมูแฮม' 2 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากคดีขับรถชนผู้อื่นเสียชีวิต เมื่อปี 2550 ด้านญาติผู้ตายเผยดีใจการต่อสู้คดีให้แม่สำเร็จ
 
ศาลจังหวัดพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่อัยการฝ่ายคดีศาลจังหวัดพระโขนง / นายมาโนจน์ หรือธนชรพล โตจวง / นางสาวสังวาล สีหะวงษ์ / นางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ์ และนางทองดำ หลวงแสง ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือหมูแฮม เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้อันตรายแก่กาย 
 
กรณีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 โดยใช้ก้อนหินทุบใบหน้านายสถาพร อรุณศิริ พนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ สาย 513 และขับรถเบนซ์ ทะเบียน ศศ 6699 กรุงเทพฯ พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนบนทางเท้า ทำให้นางสายชล หลวงแสง พนักงานเก็บเงิน ขสมก.เสียชีวิต หลังเกิดเหตุรถเมล์ขับปาดหน้ารถของนายกัณฑ์พิทักษ์ให้หยุดบริเวณหน้าป้อมตำรวจจราจร ที่ปากซอยสุขุมวิท 26 
 
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากผลการตรวจของแพทย์ พบว่าจำเลยมีจิตบกพร่องแต่สามารถรู้จักผิดชอบถึงการกระทำของตน โดยพิพากษาแก้ศาลอุทธรธณ์ที่พิพากษาจำคุกฐานฆ่าผู้อื่นขณะมีจิตบกพร่อง 2 ปี 1 เดือน โดยให้รอลงอาญา แต่จากประวัติการรักษา แม้จำเลยมีอาการทางจิตแต่ห่างหายจากการพบแพทย์และขาดยา ศาลฎีกาพิเคราะห์จากสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นพบมีประวัติการเสพยาเสพติดหลายชนิดตั้งแต่อายุ17-18 ปี และก่อนเกิดเหตุมีการเสพยา ซึ่งเคยขับรถเกิดอุบัติเหตุโดยแพทย์ระบุว่าจำเลยป่วยเป็นโรคอารมณ์แปรปรวนแต่บิดายังให้ขับรถ จึงถือว่าเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้จำคุก 2 ปี 1 เดือน ฐานฆ่าและทำร้ายร่างกายผู้อื่น และยกเลิกการคุมประพฤติ โดยไม่รอลงอาญา 
 
ทั้งนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2552 พิพากษาลงโทษฐานฆ่าผู้อื่น จำคุก 10 ปี ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจำคุก 1 เดือน พร้อมทั้งริบรถยนต์ของกลาง และให้ชำระค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี และเมื่อรวมโทษฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น อีก 1 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้นเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือน เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้จำเลย รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 2 ปี 
 
ทางด้านนางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ บุตรสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ต่อสู้เพื่อแม่ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ โดยตนเองได้ต่อสู้คดีมายาวนานเกือบ 8 ปี 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง