ผู้ว่าแบงก์ชาติ ห่วงก่ารชุมนุมในวันพรุ่งนี้เสี่ยงเผชิญหน้าและอาจเกิดเหตุบานปลายขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่ภาพรวมและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ธปท.ร่วมชุมนุมต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษนั้นถือเป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตย และมองเป็ฯทางบวกที่ประชาชนออกมาคัดค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยในงานอบรม หลักสูตรการธนาคารกลางสำหรับสื่อมวลชน เรื่อง เศรษฐกิจไทยภายใต้ความผัวผวน ว่าเป็นห่วงการชุมนุมของหลายกลุ่มที่จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.นี้ ที่อาจเกิดการเผชิญหน้า และอาจเกิดเหตุบานปลายขึ้น
เพราะขณะนี้ยอมรับว่าความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองเริ่มบั่นทอนภาวะเศรษฐกิจแล้ว เห็นได้จากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ผู้บริโภค และภาคธุรกิจที่ลดลง ซึ่งแบงก์ชาติก็ต้องพร้อม ทำหน้าที่เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ เช่น การดูแลสภาพคล่อง ,การรักษาเถสียรภาพระบบสถาบันการเงิน และการสร้างความมั่นคงของนโยบายการเงินไม่ให้บกพร่อง รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านเศรษฐกิจที่ถูกต้อง
ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติ ออกมาคัดค้าน การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เรื่องนี้ถือเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย และไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน ซึ่งการออกมาคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของประชาชนทั่วไปนั้น ถือเป็นเรื่องในทางบวก เพราะการที่ประชาชนทั้งฝ่ายที่เคยเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ออกมาแสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน เมื่อเห็นสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง นับเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย และดีกว่าการนิ่งเฉยเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ผู้ว่าแบงก์ชาติยังได้ยกคำกล่าวว่า Public office is a public trust ที่สื่อถึงความสำเร็จของรัฐ ขึ้นกับความไว้วางใจของสาธารณะ เมือเกิดปัญหาแล้วก็ควรมองปัญหาท่ีแท้จริง และตั้งใจแก้ปัญหาที่แท้จริงที่ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ รวมทั้งสร้างความหวังให้เกิดขึ้น ไม่ใช่การนำคนหมู่มากมาชนคนหมู่มาก ที่มีแต่จะทำให้เกิดการสูญเสีย
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ประสารไตรรัตน์วรกุล
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
แบงก์ชาติ
สถานการณ์การเมือง
การชุมนุม
ชุมนุม
บานปลาย
นิรโทษกรรม
กระทบ
เศรษฐกิจไทย