ไทยพรีเมียร์ลีก ลิขสิทธิ์พุ่งพรวดกว่า 2พันล้าน

บังยี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ครั้งที่ 3/2558 ที่สมาคมฟุตบอลฯ เมื่อ 28 ก.ค. หลังการประชุม นายวรวีร์ มอบหมายให้ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฏหมายของสมาคมฟุตบอลฯ แถลงว่า ที่ประชุมพยายามหาข้อสรุปกรณีข้อพิพาทในเกมยามาฮ่าลีกวัน คู่ สุโขทัย เอฟซี พบ นครปฐม เอฟซี เมื่อ 9 พ.ค. ซึ่งไฟสนามดับและต้องยุติการแข่งขันในนาทีที่ 51 สภากรรมการมีมติว่าให้ตั้งคณะอนุญาโตตุลาการ มี ดร.ภิญโญ นิโรจน์ เป็นประธาน เพื่อตัดสินชี้ขาด

     หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาไกล่เกลี่ยขึ้นมาแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับในหลักการของการปรับองค์กรการบริหารการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ให้มีการจัดตั้งเป็น "บริษัท ลีกภูมิภาคไทย จำกัด" อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ไม่ได้พูดถึงเรื่องแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศ ฉบับ พ.ศ.2558

    ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานทีพีแอล เผยถึงกรณีที่ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เดิม 3 ปี กำลังจะหมดลงปี พ.ศ.2559 ว่า จะประมูลลิขสิทธิ์รอบใหม่ภายในปีนี้ มีบริษัทอื่นให้ความสนใจที่จะร่วมแย่งประมูลลิขสิทธ์อีก 3-4 เจ้า แต่คาดว่า ทรูวิชั่นส์ น่าจะได้ลิขสิทธ์ต่ออีก 3 ปี (พ.ศ.2560-2562) มั่นใจว่าค่าลิขสิทธิ์อีก 3 ปีต่อไปนั้น จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมเมื่อ 3 ปีก่อน (พ.ศ.2557-2559) มีมูลค่า 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นปีละ 600 ล้านบาท แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะพุ่งขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นปีละ 700 ล้านบาทอย่างแน่นอน รวมไปถึงค่าลิขสิทธิ์ของสปอนเซอร์ต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย