พายุพัดถล่ม อ.ภูพาน ส่งผลต้นไม้ใหญ่ หักทับรถยนต์ 2 คัน
logo ข่าวอัพเดท

พายุพัดถล่ม อ.ภูพาน ส่งผลต้นไม้ใหญ่ หักทับรถยนต์ 2 คัน

14,549 ครั้ง
|
07 เม.ย. 2558
เกิดเหตุพายุพัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบ หักสะบั้นล้มทับรถยนต์ ที่วิ่งบนถนนจนแบน คนในรถติดคาซากรถ อาการสาหัส
 
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.นิคม ระมัยวงศ์ ร้อยเวร สภ.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในซากรถ ทำให้สัญจรไปมาไม่ได้ เหตุเกิดที่ระหว่าง กม.ที่ 41-42 ถนนสร้างค้อ สกลนคร จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ และกู้ภัย เทศบาลตำบลสร้างค้อ รุดไปยังที่เกิดเหตุ 
 
เมื่อไปถึงพบรถยนต์จำนวน 2 ค้น ถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ 2 คนโอบ ทราบภายหลังคือต้นกระรอก สูงกว่า 10 เมตร ทับรถอยู่กลางถนน ในขณะนั้นผู้เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีรถแบ๊คโฮ ซึ่งทำงานอยู่ในบริเวณนั้นเข้ามาช่วยยกต้นไม้ออก ซึ่งผู้ติดในรถคันแรก เป็นรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กม 410 นครราชสีมา คือ นายอนุวัฒน์ ศิริ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 10 ต.โคกหินแห่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือ 
 
อีกคันเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน 4987 กาฬสินธุ์ คนขับคือ นายประเวศน์ หินสุข อายุ 52 ปี เลขที่ 73 หมู่ 21 ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลสร้างค้อ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและลำตัว ส่วนคนนั่งข้างเป็นภรรยา ทราบชื่อ นางชู ตีกามน อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ 10 ต.หลุบเลา อ.ภูพาน ได้รับบาดเจ็บจากหลังคาและต้นไม้รถทับ หมดสติอยู่ในรถ ใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงช่วยออกมาสำเร็จและนำส่ง รพ.สกลนคร 
 
ขณะที่ นายธวัช บุญเกิด อายุ 36 ปี  ซึ่งมีอาชีพขับรถแบ๊คโฮ เล่าว่า ขณะที่ตนขับรถแบ๊คโฮทำงานอยู่ในบริเวณนั้น ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จึงเข้าไปนั่งหลบในรถปิคอัพ เป็นเวลาที่ที่รถยนต์ 2 คัน ขับออกจากตัวเมือง มุ่งหน้าไปทาง ต.สร้างค้อ ช่วงที่รถปิคอัพจะเร่งเครื่องเพื่อแซงรถเก๋ง เป็นจังหวะเดียวกับที่ต้นกระรอกได้ถูกลมพัดหักโค่นลงมาทับรถทั้งสองคันพังเสียหาย
 
 
ตนจึงรีบออกมาช่วย โดยใช้รถแบ๊คโฮยกต้นไม้ที่ทับรถออก ก่อนที่จะดันไม้ออกจากถนนและนำรถออกจากช่องทางจราจร และทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนในรถกระบะซึ่งเป็นคนขับ อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนผู้ที่นั่งคู่ซึ่งเป็นภรรยา หมดสติอาการหนักมาก เพราะศีรษะถูกกระแทกอย่างแรงอาการจึงน่าเป็นห่วง 
 
อย่างไรก็ตาม ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่อีกหลายต้นในบริเวณนั้น ที่เสียงต่อการหักและล้มจนเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งทางราชการน่าจะเข้ามาดำเนินการตัดโค่น ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง