"ทนายตั้ม" ยืนยันพร้อมสู้คดี หลังถูกควบคุมตัวพร้อมภรรยาในคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน ไม่เครียดหลังนอนคุก 1 คืน ยืนยันไม่ได้เตรียมเผ่นออกนอกประเทศ แค่ไปทำวัดเย็น
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2567 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" และภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม ในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และสมคบกันกระทำความผิด โดยการสอบสวนใช้เวลานานกว่า 11 ชั่วโมง ด้วยการแยกสอบปากคำคนละห้อง
พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า แม้ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกิน 3 ปี และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่งผลให้ทั้งคู่ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขัง
โดยการสอบสวนดำเนินมาจนช่วงหลัง 5 ทุ่ม ตำรวจลงมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณห้องควบคุมผู้ต้องหาที่อยู่ชั้น 1 โดยขอความร่วมมือผู้สื่อข่าวออกนอกอาคาร บอกว่า ทนายตั้ม ร้องขอ ไม่ต้องการให้สื่อมวลชนบันทึกภาพตอนเดินเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งผิดวิสัยของทนายตั้ม ปกติชอบออกสื่อและเป็นข่าว กระทั่งช่วงเที่ยงคืนครึ่ง ครบ 11 ชั่วโมงตั้งแต่คุมตัวมาสอบปากคำ ตำรวจได้คุมตัวทั้งสองคนเดินลงมาเข้าห้องขังที่ชั้น 1 สีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไร
นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม เปิดเผยว่า จำเลยไม่ได้มีเจตนาหลบหนี โดยก่อนหน้านี้เพียงเดินทางไปทำวัดเย็นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตได้จากการแต่งกายด้วยชุดสีขาว ไม่ได้มีแผนหลบหนีไปยังชายแดนตามที่มีการเข้าใจผิด
ทั้งนี้ ภรรยาของทนายตั้มมีอาการเครียดเนื่องจากเป็นผู้หญิง ส่วนแนวทางการสู้คดี ทางทีมทนายความได้เตรียมพยานหลักฐานไว้พร้อมแล้ว และจะหารือกับญาติเพื่อเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวทั้งสองคน
มีรายงานว่าในวันนี้ (8 พ.ย. 2567) ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
+ อ่านเพิ่มเติม