สาวร้อง ! ถูกเอเจนซี่หลอกให้แต่งงานกับชายชาวจีน อ้างโปรไฟล์หรู แต่พอไปถึงไม่ใช่แบบที่คิด

สายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะมีการเรียกเงินสูงถึง 800,000 บาทจากชาวจีน

ผู้เสียหาย บอกว่า เอเจนซี่แนะนำให้เธอรู้จักกับหนุ่มชาวจีน อายุ 34 ปี ระบุว่า เป็นนักธุรกิจ ฐานะดี จึงเริ่มพูดคุยผ่านทางแอปฯ วีแช็ต ก็เห็นว่ามีคอนโดมิเนียมหรูกลางกรุงฯ มีฟาร์ม คิดว่าจะเลี้ยงดูเธอได้ จึงตกลงปลงใจยอมแต่งงาน แต่พอไปถึงจีน บ้านที่ไปอยู่กลับเป็นฟาร์มบนเขา สภาพเก่า ฝ่ายชายบอกว่า ต้องมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว เพราะต้องช่วยแม่ทำงาน เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นลำบากมาก การอยู่กินไม่สะดวกสบาย ไม่มีน้ำอาบ ต้องใช้น้ำประหยัด จะสระผมก็ต้องลงเขาเข้าไปสระในเมืองอาทิตย์ละครั้ง

เคยบอกเอเจนซีว่า ขอกลับบ้าน แต่เอเจนซีและฝ่ายชายปฏิเสธ ฝ่ายชายบอกว่าให้เงินไป 800,000 บาท ไม่พอเหรอ แต่ตนเองได้รับเงินจากเอเจนซีแค่ 90,000 บาท

จึงตัดสินใจหนีลงจากเขาระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านพาไปส่งในเมือง แล้วต่อรถบัสในเมือง 4 ชั่วโมง เพื่อไปขึ้นเครื่องบินกลับไทย พอกลับมาบ้านและได้บอกเอเจนซีแต่กลับถูกบังคับให้กลับไป ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายค่าเสียหาย 350,000 บาท

จนถึงขณะนี้ ตนก็ถูกเอเจนซี่ตามมาคุกคามและข่มขู่คนในครอบครัวว่า ถ้าไม่จ่ายค่าปรับก็จะฟ้องและบังคับให้เซ็นสัญญาเงินกู้ วันนี้จึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้พาเข้าแจ้งความเอาผิดกับเอเจนซี่ และอยากฝากเตือนผู้หญิงที่กำลังคิดจะหาแฟนเป็นคนจีนว่าให้ระวังด้วย

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะทางเอเจนซี่ได้รับเงินจากชายจีนมา 8 แสนบาท เพื่อทำการส่งหญิงไทยไป ซึ่งทีมงานจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และฝากถึงผู้หญิงไทยที่อยากมีสามีเป็นคนจีนว่าให้ระวัง เพราะเคยมีเคสที่ตนไปช่วยเหลือมาได้ เป็นหญิงชาวไทยที่ไปแต่งงานกับชายชาวจีน แต่มีลูกเป็นผู้หญิง จึงถูกทำร้ายทุบตี เพราะครอบครัวฝ่ายชายต้องการให้ได้ลูกชาย