น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่มีสีสันและรสชาติที่มีความแตกต่างกัน เป็นที่นิยมของผู้คนในทุกวัยตั้งแต่ เด็ก วัยรุ่น หรือแม้แต่คนสูงวัยหลาย ๆ คน โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญหลัก 3 ส่วน ได้แก่ น้ำโซดา สารปรุงแต่งเพื่อสร้างความแตกต่างทางสีและรสชาติ และน้ำตาล
แต่ในปัจจุบันกระแสเรื่องสุขภาพที่มาแรงขึ้นทุกปี ทำให้บริษัทน้ำอัดลมหลายแห่งเริ่มออกผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรน้ำตาลน้อย และน้ำตาล 0% ซึ่งใช้แอสปาร์แตมเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มคนรักสุขภาพ
ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ข้อมูลของสารแอสปาร์แตมว่า แอสปาร์แตม (Aspartame) เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่นิยมนำมาให้เป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่ม และสามารถพบได้บ่อยที่สุดในท้องตลาด ทำมาจากกรดแอสปาร์ติก (Aspartic Acid) และฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนตามธรรมชาติผสมกับเมทิลเอสเทอร์ (Methyl Ester) โดยกรดแอสปาร์ติกนั้นเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ ส่วนฟีนิลอะลานีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น แอสปาร์แตมเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะย่อยสลายเป็นเมทานอล (Methanol) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่า หากร่างกายได้รับเมทานอลในปริมาณมากเกินไปก็อาจเป็นพิษได้ เนื่องจากเมทานอลอาจเปลี่ยนเป็นสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาแถลงข่าวผลการศึกษาสารแอสปาร์แตมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 องค์การอนามัยโลกได้ทำการศึกษาและประเมินว่า สารแอสปาร์แตมเป็นสารที่อาจก่อมะเร็งในมนุษย์โดยเกี่ยวข้องกับมะเร็งเซลล์ตับ (Hepa Tocellular Carcinoma) โดยจัดอยู่ในกรุ๊ป 2 บี
อย่างไรก็ตามทาง WHO ไม่ได้ออกมาบังคับให้บริษัทอื่น ๆ ยกเลิกการใช้ และห้ามไม่ให้ประชาชนบริโภคสารแอสปาร์แตมแต่อย่างใด เพียงแค่แนะนำให้บริโภคอย่างพอเหมาะเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยของประชาชนทุกคน
ที่มา : สสส., กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม