กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็น จนท.ฝ่ายปกครอง เรียกเก็บส่วยคนขายน้ำกระท่อม | เช้านี้ที่หมอชิต

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่ จังหวัดชลบุรี เกิดกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นชุดจับฝ่ายปกครอง ล่อซื้อร้านขายน้ำใบกระท่อม อ้างว่ามีเคสร้องเรียนขายให้เยาวชน ก่อนมีคลิปเสียงตามมา เรียกเก็บส่วยเจ้าของร้านขายน้ำใบกระท่อมร้านละ 2,000 บาท แลกการคุ้มครอง-ส่งซิกแจ้งข่าวลับ

 

อ้างเป็น จนท.ฝ่ายปกครอง เรียกเก็บส่วยคนขายน้ำกระท่อม

นี่เป็นคลิปภาพที่กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คน สวมเสื้อยืดและเสื้อกั๊กที่มีตัวอักษร กรมการปกครอง มีการถ่ายคลิปขณะลงไปตรวจสอบธนบัตรล่อซื้อในร้านขายน้ำพืชใบกระท่อม ในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในคลิปจะมีการลงไปตรวจสอบทั้งหมด 2 ร้าน ร้านแรกไม่พบธนบัตรล่อซื้อ แต่ร้านที่ 2 พบธนบัตรล่อซื้อ จึงมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน กับชายสวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงิน ระบุชื่อที่หน้าอกด้านขวาเป็นปลัดอำเภอ พร้อมกับเก็บรวบรวมน้ำใบกระท่อมหลักฐาน

 

และหลังจากกรณีการบุกลงไปจับ 2 ร้านนี้ ต่อมาปรากฏคลิปเสียงพูดคุยทางโทรศัพท์มือถือ ระหว่างหนึ่งในชายชุดจับของฝ่ายปกครองพูดคุยกับเจ้าของร้านขายน้ำใบกระท่อมหลายสาขา ในพื้นที่เขตเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยเรียกรับค่าคุ้มครองหรือส่วย ร้านละ 2,000 บาท แลกกับการดูแลคุ้มครอง ดึงเข้าไลน์กลุ่มแจ้งข่าวสารข้อมูลวงในให้ทราบล่วงหน้า หากมีการออกจับกุมกวาดล้างน้ำกระท่อม ระบุต้องส่งยอดทุกวันที่ 5 ของเดือน

 

ชายที่อ้างตัวเป็นชุดจับฝ่ายปกครองเตือนด้วยว่าอย่าบอกใครเป็นอันขาด และข่าวที่แจ้งก็ห้ามรั่วไหลไปถึงร้านค้าอื่น ๆ ถ้ามีเคสร้องเรียนจริงจะขอจับ และสุดท้ายขอรับเป็นเงินสดเท่านั้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่อำเภอบางละมุง มีร้านขายใบกระท่อม และผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ นายอำเภอบางละมุง สั่งกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง จนขยายผลไปทลายแหล่งผลิตน้ำกระท่อม ยึดของกลาง อุปกรณ์การผลิต และน้ำกระท่อมนับพันขวด จนเป็นข่าวฮือฮาในพื้นที่

 

ปลัดอำเภอบางละมุง เอาหัวเป็นประกัน ยันไม่มีรับส่วย

แต่เรื่องเรียกรับส่วยกระทบภาพลักษณ์อำเภอบางละมุงอย่างมาก ทำให้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เวลา 17.00 น. นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง รวบรวมหลักฐานเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ให้เอาผิดบุคคลที่แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ สร้างความเสียหายให้กับอำเภอบางละมุง โดยระบุว่า บุคคลที่อ้างว่าเป็นชุดจับฝ่ายปกครองนั้น มีชื่อเล่นว่า แบงค์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน ประเภทสำรอง ตามหนังสืออำเภอบางละมุง ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 แต่หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจึงเรียกเจ้าตัวมาสอบสวน เจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานยอมรับสารภาพ จึงถอดชื่อบุคคลดังกล่าวออกเมื่อ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สรุปคือไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการจับกุมตามที่แอบอ้าง จึงได้แจ้งความดำเนินคดี รวมถึงให้ ผู้กำกับ สภ.บางละมุง สั่งสืบเส้นทางการเงินที่นายแบงค์เรียกรับส่วย ส่งต่อถึงบุคคลหรือหน่วยงานใด

 

แต่เบื้องต้น ปลัดอำเภอบางละมุง เปิดเผยคลิปเสียงที่นายแบงค์ให้การยอมรับสารภาพ โยงว่าการเก็บส่วยเชื่อมโยงกับ สืบภาค ชุดหนึ่ง ที่ขอให้นายแบงค์เรียกรับผลประโยชน์ให้ หลังจากร้านน้ำกระท่อมซึ่งเป็นของน้องนายแบงค์ถูกชุดสืบภาคจับกุม ซึ่ง นายแบงค์ ติดต่อขอเคลียร์ จนนำสู่การจ่ายตั๋วดูแลรายเดือนให้นายแบงค์เป็นผู้เก็บแล้วนำส่ง แลกกับผลตอบแทน

 

เมื่อ นายแบงค์ รับเก็บส่วยให้บางหน่วยงานจึงทราบข้อมูลเชิงลึกในการจับกุม จึงไปอ้างกับร้านน้ำกระท่อมในพื้นที่ว่าสามารถแจ้งข่าวเชิงลึกการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับกุมดำเนินคดีได้ ซึ่งยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ อำเภอบางละมุง และยินดีให้ตรวจสอบเพื่อเปิดเผยไอ้โม่งที่หาผลประโยชน์ตัวจริง

 

ปลัดอำเภอบางละมุง ยังกล่าวอีกว่า ตนขอเอาศีรษะเป็นประกัน หากมีการกระทำผิดจริงให้นำตนเองไปประหารได้เลย พร้อมทั้งฝากถึงผู้ที่ลักลอบขายจำหน่ายน้ำกระท่อม 4×100 รวมถึงผู้กระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบให้หยุดซะ หากตรวจสอบพบผู้กระทำผิดจะทำการจับกุมดำเนินคดีถึงที่สุด