ประวัติศาสตร์ “กะเทยไทย” รวมตัวทวงคืนศักดิ์ศรี กลายเป็นวาระแห่งชาติ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เป็นศึกกู้ศักดิ์ศรีดุเดือดที่กลายเป็นวาระแห่งชาติในชั่วข้ามคืน เมื่อกลุ่ม LGBTQ+ คนไทย ไปรวมตัวหน้าโรงแรมย่านสุขุมวิท หลังไม่พอใจ เหตุสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ 20 คน ที่ไปรุมทำร้าย สาวประเภทสองชาวไทย 4 คน

 

ประวัติศาสตร์ สาวประเภทสองไทย รวมตัวทวงคืนศักดิ์ศรี

 

ดรามาที่เกิดขึ้น เริ่มจาก เมื่อวันที่ 3 มีนาคม เวลา 04.30 น. เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกัน บริเวณสถานบันเทิงในซอยสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. โดยในคลิปเราจะเห็นว่า สาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ กว่า 20 คน รุมทำร้าย สาวประเภทสองชาวไทย 4 คน หลังเกิดเรื่อง กลุ่มสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ ไม่จบ เอาคลิปนี้โพสต์ในกลุ่มประเทศตัวเอง พร้อมเยาะเย้ยสาวประเภทสองชาวไทยกันสนุกสนาน

 

ทำให้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) กลุ่มสาวประเภทสองไทย ได้ชักชวนกัน ไปดักรออยู่ที่หน้าโรงแรม เพราะมีข้อมูลว่า สาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ที่ก่อเหตุ กำลังจะหนีกลับประเทศ และผลปรากฏว่า กลุ่มสาวประเภทสองไทย นับ 100 ชีวิต ต่างเดินทางมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย ที่บริเวณหน้าโรงแรมดังกล่าว

 

แต่ดูเหมือนว่า ความรุนแรงจะเริ่มทวีคูณยิ่งขึ้น เพราะสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ เปิดหน้าต่างออกมาทำหน้าเยาะเย้ย ทำให้สาวประเภทสองไทย ไม่พอใจ ตะโกนโห่ร้องไล่ get out (ออกไป) ตลอดเวลา จนตำรวจ สน.ลุมพินี ต้องเข้ามาระงับเหตุ แต่กลุ่มสาวประเภทสองไทย ก็ยังไม่ยอมสลายตัว พากันมารุมรถตำรวจจนแน่น เนื่องจากต้องการให้ สาวประเภทสองฟิลิปปินส์ ถูกนำตัวไปดำเนินคดี

 

แต่ขณะตำรวจนำตัว สาวประเภทสองชาว ฟิลิปปินส์ 2 คนแรกขึ้นรถ ผลปรากฏว่า กลุ่มสาวประเภทสองไทย ต่างพากันเข้ารุมทำร้าย โดยไม่สนใจตำรวจ ถึงขั้นกระโดดลอยข้ามหัว ฝ่าเข้าไป รุมยำ จนสภาพของสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ ยับเยิน สะบักบะบอม

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ต้องบอกว่า มีสาวประเภทสองชาวไทย ถูกลูกหลงไปด้วย ส่วนตำรวจบางนายบาดเจ็บ ฟกช้ำ ระหว่างที่เข้าระงับเหตุด้วย แต่พอตำรวจคุมตัว สาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ ไปถึงโรงพัก สถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายลง เมื่อตำรวจออกมาแจ้งว่า ขอเวลาทำงานก่อน

 

เผยสาเหตุถูกยั่วยุ - กระทืบเท้าใส่ เชื่อไม่ได้มาเที่ยว

 

ล่าสุด ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เมื่อเช้านี้ พบว่า มีกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทย มาติดตามความคืบหน้าคดีจำนวนหนึ่ง และยังมีเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูต ฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทย มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

 

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวประเภทสอง ชาวไทย ชื่อ เกมส์ และเมย์ (ต้นเรื่อง) ได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก เล็บฉีกจากการโดนรุมกระทืบ เผยสาเหตุมาจากการที่กลุ่มสาวประเภทสองไทย ซึ่งเป็นน้องของตน เดินผ่านกลุ่มสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ แล้วกลุ่มฟิลิปปินส์ กระทืบเท้าใส่ น้องตนจึงถามว่า เป็นอะไรหรือป่าว จากนั้นกลุ่มสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ ก็มีท่าทางยั่วยุ จนสุดท้ายต้องมาเคลียร์กันที่โรงพัก และก็เคลียร์กันจบแล้ว

 

แต่หลังจากนั้น น้องไปกินข้าวที่ปากซอยสุขุมวิท 5 และ เจอกับกลุ่มสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ อีก ก็ได้เข้ามาทำการยั่วยุตามคลิปที่ปรากฎ แถมโทรเรียกพวกมาเพิ่มเติม เพื่อที่จะมารุมทำร้ายกลุ่มสาวประเภทสองไทย ตอนนั้นน้องกลัว จึงโทรตามพวกตนมาช่วย แต่เมื่อไปถึง ก็มีการสอบถามว่า ทำทำไม แต่สุดท้ายกลุ่มสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ ก็มีลักษณะท่าทางที่มั่นใจและยั่วยุ ก่อนที่สาวประเภทสองฟิลิปปินส์จะเข้ามารุมกระทืบ

 

แฉวีรกรรมแสบ ! บังคับกราบเท้า-ไล่ตะเพิด

 

ด้าน เพื่อนของสาวประเภทสองไทย ที่มารวมกลุ่มให้กำลังใจ เปิดเผยว่า เมื่อเช้ามีรายงานมาว่า สาวประเภทสองฝั่งฟิลิปปินส์ ที่เหลืออีกกว่า 10 คน กำลังเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อออกจากประเทศ ซึ่งทาง ตม. บอกว่า ถ้าจะให้กักตัวไว้ ต้องมีหมายจับเสียก่อน ยอมว่า ผิดหวังที่พวกเขาเข้ามาก่อเหตุที่บ้านเรา แต่กลับปล่อยตัวออกประเทศไปอย่างง่ายดาย พร้อมกล่าวถึงวีรกรรมของสาวประเภทสองฝั่งฟิลิปปินส์ ว่า ก่อนหน้ากลุ่มนี้ เคยบังคับสาวประเภทสองชาวไทย ที่เป็นใบ้ให้กราบเท้า ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และสาวประเภทสองชาวไทย บางคน ก็ยังถูกไล่ตะเพิดออกจากพื้นที่ ทั้งที่ไม่ทราบปัญหา วันนี้จึงอยากออกมาเรียกร้องสิทธิ เพราะคนกลุ่มนั้น เข้ามาก่อเหตุในประเทศ

 

ร่ำไห้ ! กะเทยฟิลิปปินส์ อัดคลิปขอความช่วยเหลือ

 

ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์พบว่า สาวประเภทสองฝั่งฟิลิปปินส์ ได้มาอัดคลิป ขอความความช่วยเหลือ ประมาณว่า ผมขอความช่วยเหลือไปถึงรัฐบาลฟิลิปปินส์และสถานทูตฟิลิปปินส์ในไทย เพื่อนของเราต้องการความช่วยเหลือ พวกเขากำลังมีปัญหา พวกเขาถูกทำร้ายแม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์ก็ได้รับผลกระทบ เราต้องช่วยพวกเขาเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชาติของเรา

 

เร่งสอบวีซา กะเทยฟิลิปปินส์ แม้กลับประเทศ ก็จัดการได้

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า จากการสอบปากคำ กลุ่มผู้หลากหลายทางเพศ ชาวไทย ทั้งหมด 7 คน เบื้องต้น ทราบว่า ทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมาก่อน และเคยถูกเชิญตัวมาไกล่เกลี่ยกันที่ สน.ปทุมวัน แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยตัวกลับไป ก่อนมาก่อเหตุรุมทำร้ายกัน เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

ส่วนด้าน ชาวฟิลิปปินส์ เบื้องต้นนำตัวมาสอบปากคำแล้ว 4 คน โดยหนึ่งในผู้รับบาดเจ็บ ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ทำร้าย ขณะนำตัวมาที่ สน. เบื้องต้น ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่ามีใครเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือ

ไม่

 

นอกจากนี้ ยังได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ ว่า ได้เดินทางเข้าประเทศโดยถูกกฎหมาย หรืออยู่เกินกว่าระยะเวลากำหนดหรือไม่ ส่วนประเด็นที่เข้ามาประกอบอาชีพในไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงยังไม่ได้ทำการแจ้งความใคร

 

พชร์ อานนท์ รับสมัครถ่ายหนัง

 

งานด่วน ! พชร์ อานนท์ รับสมัครด่วนสาวประเภทสอง 50 คน ถ่ายเพิ่มหอแต๋วแตกสุขุมวิท 11 โดยหลังเกิดเหตุสาวประเภทสองไทย ตีกับฟิลิปปินส์ ในโซเชียลต่างเรียกร้องให้เรื่องจริงที่เกิดขึ้น ได้อยู่ในฉากหนังหอแต๋วแตก จน พชร์ อานนท์ ทนกระแสไม่ไหว โพสต์เฟซบุ๊กว่า รับสมัครกระเทยใจกล้า 50 คน ลงชื่อเบอร์โทรไว้เลย ถ่ายคืนวันพุธที่ 6 นี้ พร้อมโพสต์ภาพโพสเตอร์หนัง หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด โดยฉากหลังโพสเตอร์เป็นภาพป้ายสุขุมวิท 11 และเหตุการณ์ยกพวกตีกัน เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก

 

ต่อมา พชร์ อานนท์ โพสต์ข้อความอีกว่า หานักแสดงไม่ได้แล้ว มีคนบอกว่านักแสดง อยู่โรงพักลุมพินีกันหมด แล้วทำยังไงดีพูดสิ ช่วยแม่คิดหน่อย หลายคนคอมเมนต์แนะนำ ให้พี่พชร์ ยกกองไปถ่ายถึงสถานีตำรวจ เอาภาพแบบสด ๆ บทไม่ต้องมีไปเลย

 

โซเชียลยกให้วันที่ 4 มีนาคมเป็น วันกะเทยผ่านศึก

 

เรื่องที่เกิดขึ้น เรียกว่าตอนนี้ขึ้นแท่นวาระแห่งชาติ จนชาวโซเชียลสถาปนาให้วันที่ 4 มีนาคมเป็น วันกะเทยผ่านศึก ณ ซอยสุขุมวิท 11 บุคคลมีชื่อเสียงหลายคนมีการโพสต์ถึงเรื่องนี้ อย่างเช่น แพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อินฟูลเอนเซอร์ซูเปอร์สตาร์ เขียนข้อความเผ็ดร้อนว่า รวมใจกะเทยไทยขับไล่กะเทยฟิลิปปินส์ค่ะ #อย่ามารังแกคนในบ้านกูนะ, ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงค่ะ แต่ 20 รุม 2 มันก็ไม่ได้ไหมล่ะ อย่าล้อเล่นกับระบบกะเทยไทยนะคะ ต้องให้เกียรติกันค่ะ แล้วสังคมจะน่าอยู่ จบ, สยามเมืองยิ้ม = เข้ามาอยู่แล้ว ควรทำตัวให้น่ารักนะคะ ไม่ใช่ทำตัวกร่าง ตั้งแต่ฝรั่งภูเก็ตถึงกะเทยฟิลิปปินส์ นี่คือบทเรียน จบ

 

ขณะที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต โพสต์ว่า แว็ปแรกอาจจะอ่านดูแล้วขำ ๆ กะเทยไทยยกทัพรุมตบกะเทยปินส์ หลังถูกกะเทยปินส์หยามก่อน แต่ถ้าเราอ่านอย่างมีวุฒิภาวะ เหตุการณ์เกินขอบเขตไปมาก เหมือนกรณีชาวภูเก็ตยกพวกไล่ฝรั่งสวิสฯ ทั้งสองกรณี มีการโหมไฟแห่งชาตินิยม เราเป็นไทยต้องไม่ให้ต่างชาติมาย่ำยี แม้ว่าความจริง ทั้งสองกรณี ใช้มาตรการทางด้านกฎหมายแก้ไขได้ โดยไม่ต้องมีใครเจ็บตัวอีก คำแนะนำของดิชั้น อาจเป็นคำแนะนำแบบนางงาม แต่จากการสอนหนังสือเรื่องชาตินิยมมาหลายปี ถ้าไฟชาตินิยมมันถูกจุดแล้ว ดับยาก แล้วจะพังทุกฝ่าย นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องการต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างสันติ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านในอาเซียน เราต้องรักกันไม่ใช่เหรอ แล้วความพยายามสร้างอัตลักษณ์ภูมิภาคร่วมกันละ หรือวันนี้ ถูกกองทัพกะเทยไทยบดขยี้หมดแล้ว??

 

แฮชแท็ก สุขุมวิท11 พุ่งทะยาน

 

งานนี้ทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ (X) จำนวนมาก ต่างพากันติดแฮชแท็ก #สุขุมวิท11 จนทำให้ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อับดับ 1 ในประเทศไทยภายในไม่กี่ชั่วโมง เรียกว่าเป็นกระแสร้อนแรงที่กำลังถูกพูดถึงที่สุดในตอนนี้