ตำรวจแจงทำตามหน้าที่ กรณีจับผู้ต้องสงสัย คดีพลิก ! จับผิดตัว | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจเข้าไปจับกุมผู้ต้องสงสัย แต่พอทำการตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่กลับถูกแจ้งข้อหา ขัดขวางการทำงานเจ้าหน้าที่แทน ล่าสุด รองผู้กำกับการฯ แจงแล้วว่า ทำตามอำนาจหน้าที่

 

จากกรณีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยชาวบ้านก็พยายามตะโกนบอกว่า จับผิดตัว ๆ แต่คล้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมฟัง หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไป ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก

 

หลังเกิดเหตุ นายวีระศักดิ์ จันทร์แก้ว อายุ 31 ปี บุคคลที่ถูกตำรวจจับกุมในคลิป ก็ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะวันเกิดเหตุ (8 ก.พ.) ขณะที่กำลังหาข้าวกินอยู่ในบ้าน อยู่ ๆ ชายฉกรรจ์ 4-5 คน วิ่งออกมาจากป่า เข้ามาจับตนเอง ด้วยความตกใจจึงพยายามขัดขืน และป้องกันตัว จากนั้นพอกลุ่มชายฉกรรจ์บอกว่าเป็นตำรวจ จึงสอบถามว่า ตนเองทำอะไรผิด เจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งว่าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตอนนั้นก็ยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี และผลปรากฏว่า เมื่อตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งข้อกล่าวหาว่า ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน และนำตัวส่งฟ้องศาลทันที มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ศาลจึงเมตตาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ค่าปรับเหลือ 2,500 บาท

 

หลังเกิดเรื่อง ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

 

ล่าสุด พ.ต.ท.ศราวุฒิ คำน้อย รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะที่ตำรวจเข้าไปจับกุมตัว นายวีระศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าตัวมีท่าทีที่จะหลบหนี จึงเกิดเหตุชุลมุน อีกทั้งระหว่างที่จับกุมนั้น หัวหน้าชุดก็พยายามที่จะเปล่งเสียงดัง เพื่อแจ้งให้ญาติทราบว่าได้ดำเนินการจับกุมด้วยข้อหาอะไร แต่ญาติ ๆ พยายามที่จะพูดสอดแทรก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพยายามเปล่งเสียง ซึ่งถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์

 

ทั้งนี้ ในส่วนของตำรวจชุดจับกุม เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ด้วย และมีอำนาจตามกฎหมายที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. มีอำนาจเรียก หรือขอตรวจผู้ต้องสงสัยเพื่อหาสารเสพติด ได้ให้อำนาจไว้ชัดเจน และหากผู้ใดไม่ยินยอมก็จะมีมาตรการบทลงโทษที่ชัดเจน