อดีตนักการเมืองท้องถิ่น หวั่นชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยเหลือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หลบหนี เพราะคุ้นเคยกันดี ขณะที่เจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนกำลัง ขนสัมภาระไปสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่า
วันที่ 13 พ.ย.66 ที่น้ำตกโตนตก ม.2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จุดคัดกรองคนเข้าออก บ้านตระ พื้นที่หลบซ่อนตัวของนายเชาวลิต หรือแป้ง นาโหนด ที่หลบหนีไปซ่อนตัวบนเขาบรรทัด ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 10นาย ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมสัมภาระ อาหารแห้ง น้ำดื่มเสื้อผ้า และอาวุธปืน ขี่ขึ้นไปภูเขาบรรทัดระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อเข้าผลัดเปลี่ยนกำลังพล
ส่วนพื้นที่บนถนนบริเวณเขตแนวเทือกเขาบรรทัด มีการตั้งจุดตรวจตราบุคคล และรถต้องสงสัยหลายจุด ทั้งใน อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว และ อ.นาโยง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นนายแป้ง นาโหนด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตก ทำให้สะพานข้ามสายน้ำ 2 แห่ง น้ำป่าไหลหลากทำสะพานขาดเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน
ด้านนายเสรี พิชัยรัตน์ อดีต สจ.ปะเหลียน เปิดเผยว่า บ้านตระมีเส้นทางเข้าออก 3 จังหวัด คือพัทลุง สตูล และตรัง ส่วนใหญ่ 80-90% เป็นคนพื้นที่มาจากพัทลุง คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ชอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ บางคนหนีคดีไปอยู่ที่นั่น อีกทั้งเสี่ยแป้งหากหลบซ่อนมาอยู่บนเขาที่บ้านตระ สิ่งสำคัญต้องมีเงินใช้จ่าย ทำให้ง่ายต่อการหลบหนี จึงเชื่อได้ว่าชาวบ้านอาจจะช่วยเหลือเสี่ยแป้ง หากวิเคราะห์ข้อมูลส่วนนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปทำงาน และติดตามจับกุมเสี่ยแป้ง และการที่เจ้าหน้าที่ ใช้เฮลิคอปตอร์มาช่วยบิน คิดว่าไม่ได้เกิดประโยชน์ และยังบอกอีกว่า แป้งจะอยู่ได้เพราะมีชาวบ้านช่วย หากไม่มีคนช่วย หรือเป็นสาย หรือส่งเสบียงให้ จะอยู่ในป่าคนเดียวไม่ได้ และเมื่อย้อนดูประวัติ 20 ปีที่ผ่านมา นายแป้ง เคยมาแข่งรถจักรยานยนต์วิบาก ที่บ้านปะเหลียนใน บริเวณปากถ้ำบริเวณประตูน้ำชลประทาน กลุ่มวัยรุ่นก็รู้จักน นายแป้งเป็นอย่างดี
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า ทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดระแวง หวั่นจะโดนลูกหลง จากเหตุยิงปะทะกับนายแป้ง ทำให้ตอนนี้ในหมู่บ้านมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำตามจุดต่าง ๆ
+ อ่านเพิ่มเติม