การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ชี้แจงกรณีประชาชนสงสัย หลังหน่วยไฟฟ้าสูงขึ้น แม้พฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยสาเหตุหลักมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องทำความเย็นประเภทต่าง ๆ จะกินไฟเพิ่มเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น คือแม้จะใช้งานเท่าเดิมทั้งจำนวนเครื่องและระยะเวลาการใช้งาน แต่ด้วยอุณภูมิโดยรอบที่เปลี่ยนไป ทำให้การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า คือ คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อจะปรับอุณภูมิในห้องหรือในอากาศให้เป็นไปตามที่เราต้องการ หรือตามที่เราตั้งค่าไว้ แนะวิธีประหยัด เปิดแอร์ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลม
วันที่ 19 เม.ย.2566 นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ MEA ในฐานะโฆษก MEA เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าสงสัยว่าค่าไฟสูงขึ้นเพราะการไฟฟ้าขึ้นค่าไฟนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดย MEA ยืนยันว่ายังใช้หลักเกณฑ์วิธีการคิดค่าไฟฟ้าจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าในอัตราตามที่นโยบายของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนด (ตรวจสอบได้ที่
https://www.mea.or.th/profile/109/111)
สาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นนั้น เนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ในบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำความเย็นต้องทำงานมากขึ้นและใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยเห็นได้จากค่าพลังความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Maximum Demand) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ล่าสุด มีค่าเท่ากับ 8,904.66 เมกะวัตต์ เกิดขึ้นในวันที่ 18 เม.ย.2566 ซึ่งค่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงสุด มักจะพบว่าอยู่ในช่วงฤดูร้อนทั้งสิ้น
โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน คือเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ยกตัวอย่างเช่น ในสภาวะอากาศปกติ เช่น อุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส หากเราปรับอุณหภูมิแอร์ในห้องที่ 26 องศาเซลเซียส แอร์จะต้องทำงานเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ 4 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด เช่น อุณหภูมิภายนอก 40 องศาเซลเซียส หากเราตั้งอุณหภูมิแอร์ในห้องเท่าเดิมไว้ที่ 26 องศาเซลเซียส แอร์จะต้องทำงานเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ถึง 14 องศาเซลเซียล แอร์จึงทำงานหนักมากขึ้น และกินไฟมากกว่าเดิม อีกทั้งยังต้องรักษาอุณหภูมิในสภาวะที่มีความร้อนจัดจากภายนอกรบกวน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการทดสอบพบว่าอุณหภูมิภายนอกที่เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียสแอร์จะกินไฟเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ถึงแม้จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในระยะเวลาเท่ากัน หรือปรับตั้งค่าอุณหภูมิเท่าเดิมก็ตาม ประกอบกับในช่วงอากาศร้อนพฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆ เช่น การเปิดปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง การประกอบอาหารด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงการใช้น้ำอุปโภคบริโภคมากขึ้นทำให้ปั๊มน้ำทำงานมากขึ้น ทั้งหมดนี้ ทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ก็มีสาเหตุมาจากค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ที่เรียกเก็บสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต และภาระหนี้ที่ประชาชนคนไทยยังค้างกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ค่าเอฟทีงวดเดือนมกราคม - เมษายน 2566 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านพัก เรียกเก็บที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเฉลี่ยรวมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น ประเภทธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือบริการต่าง ๆ อยู่ที่ 154.92 สตางค์ต่อหน่วย หรือเฉลี่ยที่ 5.33 บาทต่อหน่วย
ส่วนงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติเห็นชอบ ค่าเอฟทีเป็นอัตราเดียวกัน สำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ เท่ากับที่ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม MEA มีข้อแนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด-ปรับ-ปลด-เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่ จะช่วยให้ประหยัดพลังงาน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็นตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
หากผู้ใช้ไฟฟ้ามีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ MEA ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news, และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งข้อมูลเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android ดาวน์โหลดฟรี ได้ที่
https://onelink.to/measmartlife