ว่าที่สาวบัณฑิตเกียรตินิยมป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่วเสียชีวิต บริจาคอวัยวะช่วย 4 ชีวิต
logo ข่าวอัพเดท

ว่าที่สาวบัณฑิตเกียรตินิยมป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่วเสียชีวิต บริจาคอวัยวะช่วย 4 ชีวิต

ข่าวอัพเดท : ว่าที่สาวบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เสียชีวิต สั่งเสียญาติ บริจาคอวัยวะ ช่วย 4 ชีวิต ครอบครัวเล่าสุดเศร้า ทำใจไ ว่าที่บัณฑิตสาวเกียรตินิยม,บริจาคอวัยวะ,ต่อชีวิต,ลิ้นหัวใจรั่ว

1,091 ครั้ง
|
16 มี.ค. 2566
     ว่าที่สาวบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว เสียชีวิต สั่งเสียญาติ บริจาคอวัยวะ ช่วย 4 ชีวิต ครอบครัวเล่าสุดเศร้า ทำใจไม่ได้ อนาคตกำลังจะดี
 
        วันที่ 15 มี.ค.66 สาวอายุ 22 ปี ว่าที่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดเชียงราย ใจบุญสั่งเสียญาติหากตนเองเป็นอะไรไป ขอให้บริจาคอวัยวะตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไป หลังทราบข่าวว่าตนเองป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ล่าสุดวานที่ผ่านมาเสียชีวิตลง ทางญาติจึงทำตามความต้องการผู้ตาย โดยการบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาลพะเยา โดยแพทย์โรงพยาบาลพะเยา ระบุอวัยวะผู้ตายที่ทางโรงพยาบาลพะเยา สามารถรับบริจาคได้จะมีดวงตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 4 คน
 
       นางศุภกาญจน์ โรจนโสทร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา นายแพทย์อนันต์ มาลัยรุ่งสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลพะเยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กาชาดและแพทย์พยาบาล โรงพยาบาลพะเยา ต่างร่วมกันเข้ารับมอบและร่วมพิธีแสดงความอาลัย กับผู้บริจาคอวัยวะ ของว่าที่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดเชียงราย อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา  หลังสั่งเสียญาติหากตนเองเป็นอะไรไป ขอให้บริจาคอวัยวะตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไป ขณะที่ทราบข่าวว่าตนเองป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว
 
        โดยล่าสุดวานที่ผ่านมาหลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลง ทางญาติซึ่งประกอบด้วยยาย น้องสาว และน้าสาว ของผู้เสียชีวิต จึงได้นำร่างดังกล่าวเข้าทำการบริจาคอวัยวะ
 
           โดยยายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในการนำหลานสาวเข้าทำการบริจาคอวัยวะดังกล่าว เนื่องจากเป็นความประสงค์ของหลานที่ได้พูดมาโดยตลอด หากตนเองเป็นอะไรไป ขอให้ทางญาตินำร่างกายและอวัยวะทำการบริจาคให้ด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป โดยผู้เสียชีวิตมีการป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่ว และก่อนเสียชีวิตมีการเลือดออกในสมองมาก เนื่องจากมีการรับประทานยาสลายลิ่มเลือด ญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้นำเอาร่างดังกล่าวบริจาคอวัยวะตามที่ผู้เสียชีวิตมีความต้องการ
 
         ขณะที่น้าสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวนั้นเพิ่งจะจบการศึกษาแต่ยังไม่ได้รับปริญญาบัตร แต่มาเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งตนเองนั้นก็รับไม่ค่อยได้มันเร็วเกินไป ซึ่งผู้เสียชีวิตกำลังจะจบและกำลังจะได้ทำงานเนื่องจากน้องเรียนสาขาคณิตศาสตร์ และได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยและสามารถที่จะเป็นครูเอกคณิตศาสตร์ได้เลย แต่ก็ไม่ได้ตามที่มุ่งหวังไว้ และด่วนจากไปเสียก่อนซึ่งทางญาติไม่อาจทำใจได้
 
         ขณะที่นายแพทย์อนันต์ มาลัยรุ่งสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลพะเยา ระบุว่าในส่วนของผู้เสียชีวิต ได้มีความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะนั้น ถือว่าเป็นการให้ที่ถือเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการบริจาคอวัยวะของเราที่จะเป็นการต่อชีวิตให้กับคนอื่นต่อไป ซึ่งการบริจาคอวัยวะดังกล่าวนั้นจะมีทั้งการบริจาคดวงตา หัวใจ ปอด ตับ ไต ซึ่งในเคสนี้ทางโรงพยาบาลสามารถที่จะรับบริจาคได้ โดยมีดวงตา 2 ข้างและไต 2 ข้าง ซึ่งเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่สามารถที่จะ ช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยต่อไปถึง 4 คน
 
          ขณะที่นางศุภกาญจน์  โรจนโสทร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในนามของเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยาเป็นตัวแทนสภากาชาดไทยก็ได้มารับอวัยวะของน้องที่เสียชีวิต แล้วได้บริจาคอวัยวะซึ่งหากสามารถใช้ได้หมดก็จะสามารถช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 8 คน ในส่วนรายนี้สามารถรับบริจาคได้ โดยได้ดวงตา  2 ข้าง ไต  2 ข้าง เพื่อนำไปช่วยเหลือให้กับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีภาวะอาการป่วยที่ต้องการต่อไป