หนุ่มบุรีรัมย์ สุดช้ำใจ แฟนสาวที่หมั้นหมายกันมานานเกือบ 4 ปี ดอดไปหมั้นกับชายอื่น โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าจะยกเลิกกันหมั้นหมาย ฝ่ายหญิงโต้รอมา 4 ปีไม่มาขอตามสัญญา ส่วนทอง 1 บาท ที่ให้วันหมั้น ยืนยันว่าไม่คืน
วันที่ 20 ก.พ.66 นางคูณ สนิทนอก อายุ 54 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายโอเว่น อายุ 20 ปี ลูกชาย ซึ่งปัจจุบันเป็นพนักงานขับรถบริษัทแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ต้องการให้ครอบครัวฝ่ายหญิงคืนสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่ใช้สำหรับหมั้นหมายกันไว้เมื่อปี 2562 หลังจากฝ่ายหญิงผิดสัญญาแอบไปหมั้นหมายกับชายคนอื่น โดยทางครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวฝ่ายชายรับทราบว่าจะมีการยกเลิกการหมั้นหมายแต่อย่างใด
นายโอเว่น เล่าว่าตนได้หมั้นหมายกับ น.ส.เอ อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2562 โดยพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตน เดินทางไปขอหมั้นหมายที่บ้านฝ่ายหญิงซึ่งอยู่อำเภอเดียวกัน โดยมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทไปเป็นของหมั้น ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าวันแต่งมีสินสอดกันเป็นเงินสด 100,000 บาท และทองหนัก 2 บาท จากนั้นตนกับแฟนก็ไปมาหาสู่กันปกติ
กระทั่งตนเริ่มเห็นแฟนสาวไปพูดคุยสนิทสนมกับนายเอ็ม (นามสมมติ) ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่เขย ตนก็เคยบอกแฟนสาวว่าไม่ให้คุยเพราะตนหึงและหวงแฟนสาว แต่แฟนสาวก็บอกว่าแค่คุยกันแบบพี่น้องไม่ได้คิดอะไร
ส่วนที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าเลิกกับตนเองเพราะตนทำร้ายนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่ามีปากเสียงทะเลาะกันด้วยคำที่รุนแรงเพราะความหึงหวงที่เห็นคู่หมั้นตัวเองไปคุยสนิทสนามกับชายคนอื่น สุดท้ายก็แอบไปหมั้นหมายกัน
ก่อนที่จะแอบหมั้นกันแฟนสาวเคยใช้คำพูดดูถูกตัวเองว่า “ไม่มีปัญหาเงินไปแต่ง รอจนอายคนทั้งหมู่บ้าน” ก็ยอมรับว่าครอบครัวตนฐานะยากจนจะบีบคอให้ตายคงหามาให้มาไม่ได้ แต่ก็เคยคุยกันว่ารอให้เขาจบมหาลัยและให้ตนเกณฑ์ทหารก่อนแล้วจะหาเงินมาแต่งฝ่ายหญิงก็รับรู้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาทำแบบนี้
เสียใจมากถึงขั้นเคยคิดจะเอาปืนไปยิงผู้ชายคนใหม่ของแฟนสาว แต่พอเห็นหน้าแม่ลอยเข้ามาก็คิดได้ว่าถ้าไปฆ่าเขาตาย ตัวเองก็ต้องติดคุกแล้วใครจะดูแลพ่อแม่ ก็ได้แค่กลับมานอนร้องไห้คนเดียวเพราะทำอะไรไม่ได้ ส่วนเรื่องทองหนัก 1 บาท ที่นำไปหมั้นฝ่ายหญิงส่วนตัวไม่อยากได้คืน แต่ก็เป็นเรื่องของพ่อแม่ที่จะดำเนินการเพราะเป็นเงินของท่าน แต่ตัวเองไม่อยากยุ่งอะไรกับเขาอีกแล้วก็พอรู้ว่าเขาหมั้นกันก็ “สาธุด้วย” ยินดีด้วยก็ขอให้เขาดูแลกันดีๆ สมกับที่อยากได้กัน
ด้านนางคูณ ผู้เป็นแม่บอกว่า ที่ไปแจ้งความเพราะอยากได้ทองหมั้นคืนเพราะฝ่ายหญิงทำผิดสัญญา ซึ่งตอนไปคุยครอบครัวฝ่ายหญิงบอกว่าสินสอดวันแต่งคือเงินสด 100,000 กับทอง 2 บาท ก็รับปากว่าจะหาเงินมาแต่งแต่ไม่ได้กำหนดวันว่าวันไหน แค่พูดไว้ว่าถ้าหาเงินได้ก็จะไปแต่ง แต่มันหาไม่ได้ก็ขอผลัดเขาไปก่อนแต่ทั้งสองก็ยังคบหากันปกติ
ด้านครอบครัวฝ่ายหญิง ให้ข้อมูลกับสื่อว่าตนและครอบครัวให้เวลาฝ่ายชายมา 4 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมาแต่งตามที่ตกลงกันไว้สักที ทำให้ตนและครอบครัวอับอายเพราะคนในหมู่บ้านก็รู้กันว่าหมั้นหมายกันไว้ และที่บอกเลิกฝ่ายชายเพราะถูกฝ่ายชายทำร้าย ส่วนทอง 1 บาท ที่ให้วันหมั้นนั้น ยืนยันว่าไม่คืนเพราะตนเป็นผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหายก็ให้ความเป็นธรรมกับตนเองด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม