ผช.พยาบาลสาว ท้อง 2 เดือน ร้อง สามีแอบไปจดทะเบียนสมรสซ้อนในวันวาเลนไทน์ ไม่รับผิดชอบลูก
logo ข่าวอัพเดท

ผช.พยาบาลสาว ท้อง 2 เดือน ร้อง สามีแอบไปจดทะเบียนสมรสซ้อนในวันวาเลนไทน์ ไม่รับผิดชอบลูก

ข่าวอัพเดท : ผช.พยาบาลสาวท้อง 2 เดือน ร้องสื่อ หลังสามีจดทะเบียนสมรสซ้อนในวันวาเลนไทน์ และไม่รับผิดชอบลูกในท้อง ด้าน ฝ่ายชาย ยอมรับ คบซ้อนจริงและ ผู้ช่วยพยาบาล,ท้อง 2 เดือน,จดทะเบียนสมรสซ้อน,วาเลนไทน์,คบซ้อน,มีกิ๊ก,ไม่รับผิดชอบลูก

805 ครั้ง
|
21 ก.พ. 2566
         ผช.พยาบาลสาวท้อง 2 เดือน ร้องสื่อ หลังสามีจดทะเบียนสมรสซ้อนในวันวาเลนไทน์ และไม่รับผิดชอบลูกในท้อง ด้าน ฝ่ายชาย ยอมรับ คบซ้อนจริงและมีคุยอีกหลายคน อ้าง ตอนจดทะเบียนสมรส  ไม่รู้ว่าเอกสารที่เซ็นนั้น เป็นใบทะเบียนสมรส
 
             เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ก.พ.66 นางสาวรัชนีกร อายุ 25 ปี ผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จ.เลย ร้องสื่อมวลชน ว่านายบีม สามีวัย 27 ปี แอบไปจดทะเบียนสมรสซ้อนกับหญิงอื่น ในวาเลนไทน์ และไม่รับผิดชอบลูกในท้องที่ตั้งครรภ์ 2 เดือนกว่า
 
            นางสาวมุก เล่าว่า อยู่กินกับสามีชื่อนายบีม ได้ประมาณ 1 ปี 2 เดือน แต่ก่อนคบกันนายบีมยอมรับ ว่าเคยมีลูก 2 คน กับภรรยาเก่า และเลิกกับภรรยาเก่าไปแล้ว แต่ภรรยาเก่าไม่ยอมย้ายออกจากบ้านของนายบีม ที่เปิดเป็นอู่ซ่อมรถอยู่ที่อำเภอเชียงคาน นานๆ ครั้งจะแวะมาหาที่อำเภอเมือง และไม่รู้ว่าสามีไปใช้ชีวิตร่วมกันกับภรรยาเก่า จนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 66 เห็นว่าเฟซบุ๊กของภรรยาเก่า ที่นายบีมอ้างว่าเลิกกันไปแล้ว มีการโพสต์รูปภาพใบทะเบียนสมรสที่เพิ่งจดทะเบียนกันไปในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ มีนายอำเภอเชียงคาน เป็นสักขีพยานมอบใบทะเบียนสมรส  ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงมีการจดทะเบียนสมรสซ้อน เพราะวันที่ 9 มกราคม เพิ่งจะไปจดทะเบียนสมรสกับสามีด้วยกันที่อำเภอเมืองเลย เมื่อโทรไปสอบถามสามี แต่ภรรยาเก่าของสามีเป็นคนรับสาย และพูดว่านี่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นก็มีการด่าทอกันเกิดขึ้น
 
           นางสาวมุก เปิดเผยว่าหลังจากจดทะเบียนกับสามี จนวันที่ 27 มกราคม ตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน สามีก็ทราบและดีใจ เหมือนจะได้เป็นพ่อคน แต่พอหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทราบว่าสามีแอบไปจดทะเบียนซ้อน เธอจึงสอบถามเรื่องความรับผิดชอบเรื่องลูก โดยเรียกร้องค่าเลี้ยงดู 3 แสนบาท พร้อมกับตัดความสัมพันธ์ แต่สามีปฏิเสธว่าไม่มีเงินให้ และตอบกลับว่า "ทำไม ไม่รู้จักป้องกัน" พร้อมให้ไปตรวจ DNA ว่าลูกในท้องใช่ลูกของหรือไม่ วันนี้จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรม ให้ฝ่ายชายออกมารับผิดชอบ และอยากได้รับคำตอบจากทางอำเภอเชียงคาน ว่าทำไมสามีถึงจดทะเบียนสมรสได้ 2 ครั้ง
 
             ผู้สื่อข่าว สอบถามนายบีม เจ้าตัวยอมรับว่า ได้จดทะเบียนสมรสซ้อนจริง โดยที่จดกับนางสาวมุก เมื่อวันที่ 9 มกราคม เป็นเพราะว่านางสาวมุก ทวงถามเรื่องการจดทะเบียนสมรสหลายครั้งก็เลยยอมไปจดให้พ้นๆไป ส่วนเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ เป็นเพราะภรรยาคนปัจจุบัน ชื่อนางสาวกระติก (นามสมมติ) อยากจดทะเบียนสมรส เพราะเห็นว่าอยู่ด้วยกันมา 11 ปี มีลูกด้วยกันมาแล้ว 2 คน ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เลยยอมไปจด ซึ่งตนก็รู้อยู่แก่ใจว่า เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับมุกไปก่อนหน้านี้ และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น นายบีม โต้กลับมุก ว่า เขาไม่เคยบอกว่าเลิกกับภรรยาไปแล้ว  ซึ่งฝ่ายของมุก ก็ทราบมาตลอด ว่าเขากับกระติก ยังคบกันอยู่ มีลูกด้วยกัน 2 คน อยู่ที่บ้าน ส่วนเรื่องลูกในครรภ์ของมุก ยินดีจะรับผิดชอบ หากเป็นลูกเขาจริงๆ เพราะระหว่างแอบคบซ้อนกับมุกมา 1 ปีเศษ ตัวมุกเอง ก็มีคนคุยหลายคน  และขอให้มีการตรวจ DNA ลูกในครรภ์ก่อน ฝั่งของตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่พอติดต่อไปหามุกให้มาไกล่เกลี่ย เจ้าตัวอ้างติดงาน บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาพูดคุยด้วย
 
          ส่วนเรื่องการทะเบียนสมรสซ้อน หลังเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับภรรยาเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขากับภรรยา ก็เซ็นใบหย่าไปเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย  และพยายามจะติดต่อมุกให้มาเซ็นใบหย่าด้วย แต่มุกก็ไม่ยอมมา ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดตัวเองทั้งหมด
 
         ส่วนประเด็นเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน วันนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่ว่าการอำเภอเชียงคาน เพื่อติดตามเรื่องนี้ นายพนิต ยอดพานิช ปลัดอำเภอเชียงคาน ชี้แจงว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสเยอะกว่าวันธรรมดา ประมาณ 20 คู่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการแค่คนเดียว ส่วนคู่รักที่มีการจดทะเบียนสมรสซ้อน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลอย่างละเอียด โดยฝ่ายชายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า คบหากับภรรยามา 11 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน และยืนยันว่าไม่เคยจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้ตามขั้นตอน
 
          กระทั่งวันถัดมา 15 กุมภาพันธ์ ฝ่ายหญิงผู้เสียหาย ได้เดินทางไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ ในที่ว่าการอำเภอเมืองเลย ว่าสามีของเธอ จดทะเบียนสมรสซ้อน ที่อำเภอเชียงคาน เจ้าหน้าที่อำเภอเมือง จึงติดต่อมาหา ทางอำเภอเชียงคาน เลยตรวจสอบพบว่า ฝ่ายชายนั้น มีชื่อที่ปรากฏว่าจดทะเบียนสมรสซ้อนจริง จึงได้มีการเรียกฝ่ายชาย กับภรรยาที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสซ้อนมาสอบถาม โดยฝ่ายชาย อ้างว่าวันที่ 9 มกราคม ฝ่ายหญิงที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย ได้ชวนไปทำธุระที่อำเภอเมืองเลย จากนั้นอีก 2 วัน ฝ่ายหญิงก็นำเอกสาร มาให้เซ็นในปั๊มน้ำมัน โดยฝ่ายชาย อ้างว่า ไม่รู้ว่าเอกสารที่เซ็นนั้น เป็นใบทะเบียนสมรส
 
             แต่ทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม กลับพบว่าฝ่ายชาย ได้เซ็นเอกสารครบถ้วนทั้ง 3 แผ่น  และยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการนำเอกสาร มาให้เซ็นในปั๊มน้ำมัน เพราะใบทะเบียนสมรสนั้น ต้องเซ็นต่อหน้าเจ้าพนักงาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ว่าการจดทะเบียน ระหว่างนายบีม กับ นส.มุก  ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเลย เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือมีการทุจริตตามที่นายบีมกล่างอ้าง แต่หากพบว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและมีเจ้าหน้าที่เป็นพยานชัดเจน นายบีมอาจถูกแจ้งข้อหา "ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานราชการ" ฐานความผิดที่โกหกเจ้าหน้าที่ว่า "ยังไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน" จนนำไปสู่การ จดทะเบียนสมรสซ้อนในครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง