ตำรวจนางรองเตรียมประสานสหวิชาชีพร่วมสอบเด็กหญิง ม.2 ถูกรุ่นพี่มอมกัญชาขืนใจ พ่อรุ่นพี่ปัดไม่ได้รู้จักนาย ตร.ใหญ่หากลูกผิดพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
คืบหน้านักเรียนหญิง ม.2 ถูกรุ่นพี่ ม.6 มอมกัญชาบังคับขืนใจในกระท่อมต่อหน้าเพื่อนชายนับสิบคน จนพ่อต้องมาร้องขอความเป็นธรรม ความคืบหน้าล่าสุดตำรวจ สภ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมประสานทีมสหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำ พร้อมส่งตรวจที่ รพ. เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน สำหรับคดีนี้พ่อของเสียหายเพิ่งมาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 2 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าหลังเกิด
เหตุการณ์มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน และผู้ปกครองฝ่ายชายระบุว่า จะมาหมั่นหมายเด็กสองคนไว้เนื่องจากยังอยู่ในวัยเรียนทั้งคู่ แต่หลังเกิดเหตุฝ่ายชายได้เงียบหายไป และอ้างว่ามีเส้นสายรู้จักนายตำรวจใหญ่ จึงออกมาแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่า ส่วนที่ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยไกล่เกลี่ยตกลงกันนั้น ก็เป็นเรื่องของทั้ง 2 ฝ่ายตำรวจไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้แล้วผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ทางพนักงานสอบสวน ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ
ส่วนพ่อของรุ่นพี่ ม.6 นักเรียนชายที่ถูกแจ้งความกล่าวหา ก็ออกมาชี้แจงว่า ตนเองไม่เคยพูดว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ตามที่พ่อของผู้เสียหายกล่าวอ้างเลย ตนเป็นเพียงพ่อค้าขายเสื้อผ้ามือสองเท่านั้น ไม่ได้มีเส้นมีสายหรือรู้จักใคร และหากลูกชายของตนเองทำผิดจริงก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ตนก็ไม่ได้เข้าข้างลูกอยู่แล้วหากทำผิด แต่ยืนยันว่าทั้งสองคนได้คบหากัน ซึ่งผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ แต่เมื่อเกิดเรื่องเกินเลยขึ้น ก็ยอมรับว่ามีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน แต่พ่อของผู้เสียหายเรียกค่าสินสอดถึง 300,000 บาท และจะเอาทันทีเลย 50,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ได้มี
เงินขนาดนั้นเพราะตั้งแต่เจอโควิดก็ขายของลำบาก ก็ต่อรองให้เขาลดให้บ้างแต่เขาก็ยืนกรานจะเอาอย่างเดียว ตนก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาให้เดี๋ยวนั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รับผิดชอบแต่ถ้าจะเอาทันทีเลยแล้วเรียกถึง 3 แสน ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน แล้วอีกอย่างเขาบังคับไม่ให้ลูกชายตนเองเรียนต่อแล้วพอลูกสาวเขาเรียนจบก็ให้แต่งกันเลย แต่ลูกชายตนเองยังอยากจะเรียนต่อตนก็สงสารลูก ส่วนเรื่องกัญชาตนถามลูกชายแล้วเขาบอกว่าเขาไม่ได้สูบ แต่เพื่อนที่ไปด้วยจะสูบหรือไม่ก็ไม่ทราบ ถ้าสุดท้ายแล้วพูดคุยกันไม่ได้ตนก็คงจะปล่อยไปตามกระบวนการ
สำหรับคดีนี้
มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 400,000 บาท
มาตรา 279 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของเด็กนั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 400,000 บาท
มาตรา 317 ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 300,000 บาท
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 05.50-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35