155 อุทยานแห่งชาติเปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มร้อย หลังปิดนานเกือบ 3 ปี จากการระบาดของโควิด-19 เฉพาะ ก.ย.เดือนเดียวที่ไม่เปิดเต็มรูปแบบ นักท่องเที่ยวยังทะลักเกือบ 5 แสนคน โดยมี “อ่าวพังงา-หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี-ดอยอินทนนท์-เขาใหญ่-เอราวัณ” ได้รับความนิยมสูงสุด แต่ยังต้องคุมจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดความแออัดควบคู่เฝ้าระวังโควิด-19 โดยให้จองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ร้อยละ 70 ที่เหลืออีกร้อยละ 30 ให้มาแบบ วอล์กอินได้ ส่วนคนเที่ยววันธรรมดาลดค่าที่พักร้อยละ 30 ล่าสุดยอดลงทะเบียนจองเที่ยวยาวถึง ธ.ค.นี้
หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทยคลี่คลายลงไปมาก ทำให้คนไทยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เกือบเป็นปกติ รวมถึงการออกเดินทางท่องเที่ยว ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 18 ต.ค. หลังได้รับการเปิดเผยจาก นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าขณะนี้อุทยานแห่งชาติ 155 แห่ง ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยขณะนี้เปิดให้เข้าชม 150 แห่งและยังปิดอยู่ 5 แห่ง คือ อุทยานฯ กุยบุรี จ.ประจวบฯ อุทยานฯ แก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี อุทยานฯ หาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ จ.นครศรีธรรมราช และอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุฝนในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเร็วๆนี้ โดยส่วนใหญ่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศได้เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาและเป็นการเปิดให้เข้าชมเต็มรูปแบบหลังจากปิดอุทยานฯ มาเกือบ 3 ปีจากโควิด-19 ทำให้แหล่งท่องเที่ยวในอุทยานฯ ได้รับการฟื้นฟู มีความสวยงามมากขึ้น เฉพาะในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวถึง 490,940 คน เพิ่มขึ้นถึง 67.34 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.2564 นี่เฉพาะยังไม่เปิดอุทยานฯ รับนักท่องเที่ยวเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอุทยานฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ อุทยานฯ อ่าวพังงา จ.พังงา อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา อุทยานฯ เอราวัณ จ.กาญจนบุรี
อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวอีกว่า ที่สำคัญในฤดูท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ในส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเล ทั้ง 26 แห่ง โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ จ.ระนองไปจนถึง จ.ภูเก็ต จะเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาสัมผัสความสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เบาบางลง โดยการท่องเที่ยวอุทยานฯ จะยังควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเล ไม่ให้เกิดความแออัด และเฝ้าระวังโควิด- 19 นักท่องเที่ยวจะต้องจองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ โดยเปิดรับ 70 เปอร์เซ็นต์ และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองล่วงหน้าสามารถ Walk in มาท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตาม วันธรรมดาอุทยานฯ จะลดค่าที่พักลง 30 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า อุทยานฯ ทั้ง 155 แห่ง ได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA 154 แห่ง ได้รับมาตรฐาน SHA PLUS+ 131 แห่ง และขณะนี้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนจองมาเที่ยวจำนวนมากเกือบยาวไปถึงเดือน ธ.ค.แล้ว เนื่องจากตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ มีวันหยุดจำนวนมาก และอุทยานฯไม่ได้เปิดเต็มรูปแบบมานานเกือบ 3 ปี ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ อาทิ อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ อุทยานฯ ดอยผ้าห่มปก อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย อุทยานฯ ห้วยน้ำดัง อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า อุทยานฯ เขาใหญ่ อุทยานฯ ภูกระดึง อุทยานฯ ภูเรือ เป็นต้น ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว มีอุณหภูมิ 10 กว่าองศาฯ และมีจุดท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น ดอยปุยน้อย : อุทยานแห่งชาติแม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีทะเลหมอกหนา หรือถ้ำหลวงแม่สาบ อุทยานฯ ขุนขาน จ.เชียงใหม่ ถ้ำที่มีความสวยงามแปลกตา และแตกต่างจากถ้ำอื่นๆของหลายๆอุทยานฯ ลวดลายและสีสันภายในถ้ำแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ สำหรับสายแคมปิ้ง ต้องที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จ.ตาก มีลานกางเต็นท์บรรยากาศดี มีหลายโซนให้เลือก เช่น โซนสำหรับประกอบอาหาร หรือโซนสำหรับต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ รวมทั้งอุทยานฯ ทางทะเลทั้ง 26 แห่ง มีจุดดำน้ำชมปะการังที่สวยงามหลายแห่งหลังจากธรรมชาติฟื้นตัวช่วงปิดระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
+ อ่านเพิ่มเติม