logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

เด็กหญิง ม.1 อุ้มเพื่อนขึ้นชั้นเรียนทุกวัน หลังเรี่ยวแรงไม่มี จากการฉีดวัคซีนโควิด

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ผลพ่วงจากการฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เด็กหญิงชั้น ม.1 หายใจเหนื่อย เรี่ยวแรงไม่มี เพื่อนต้องอุ้มขึ้นห้องเรียนทุกวัน นักเรียน,เด็กนักเรียน,เด็กป.1 อุ้มเพื่อนขึ้นชั้นเรียน,ไร้เรี่ยวแรง,ฉีดวัคซีนโควิด,ผลกระทบจากวัคซีนโควิด19,เพื่อนนักเรียน,โรงเรียน

550 ครั้ง
|
06 ก.ค. 2565
ผลพ่วงจากการฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เด็กหญิงชั้น ม.1 หายใจเหนื่อย เรี่ยวแรงไม่มี เพื่อนต้องอุ้มขึ้นห้องเรียนทุกวัน
 
นี่คือภาพความมีน้ำใจของเพื่อนนักเรียนด้วยกัน โรงเรียนท่ามะขามวิทยา อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่ช่วยกันถือกระเป๋า และอุ้มเพื่อนขึ้นบันไดอาคาร 3 ชั้นเพื่อขึ้นไปเรียนหนังสือ ของน้องมีน หรือ ด.ญ. พรทิมา ตันพานิช อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม. 1  ซึ่งมีรูปร่างกระดูกผิดรูปมาแต่กำเนิดและปอดยังแฟบ ก่อนหน้านี้น้องมีนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 เมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนฉีดผู้ปกครองการเกิดวิตกกังวลถึงผลข้างเคียงเกรงน้องจะเป็นอันตราย เพราะร่างกายไม่ปกติอยู่แล้ว จึงไปปรึกษาแพทย์ซึ่งได้ให้คำแนะนำมาว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด  เมื่อได้รับคำแนะนำจากแพทย์แล้ว บิดา และ มารดา ตัดสินใจพาน้องมีนฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 หลังจากฉีดแล้วได้กลับมานอนพักที่บ้านไม่นานก็เริ่มมีอาการจากผลข้างเคียงวัคซีน ทำให้ต้องพาน้องเข้าห้องไอซียูที่โรงพยาบาล นำไปสู่การรักษาที่ยาวนานต่อเนื่องเป็นปีแล้วจากผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนโควิด ทำให้น้องมีนมีอาการเหนื่อยมากมาจนถึงทุกวันนี้
 
  ด.ญ. พรทิมา ตันพานิช อายุ 13 ปี  หรือ น้องมีน เปิดเผยว่า  หลังฉีดแล้วผ่านมาหลายวันรู้สึกไอ เจ็บหน้าอก เริ่มหายใจแรง แม่ให้กินยาแต่ก็ไม่หาย นอนไม่หลับและเริ่มหายใจไม่ออกเจ็บหน้าอกจนนอนไม่ได้ แม่ได้พาไปคลินิกหมอบอกว่า ที่เล็บเริ่มเขียวทั้งเล็บเท้าและเล็บมือ เลยส่งไปที่โรงพยาบาลราชบุรี และให้นอนที่รักษา ช่วงเช้ามืดได้ใส่ท่อหายใจพร้อมกับส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ  ช่วงก่อนที่ฉีดวัคซีนไม่เคยมีอาการแบบนี้  รู้ตัวว่าหลังจากที่ฉีดวัคซีนเมื่อตอนอยู่ ป. 6 มาแล้วจะรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้น ถ้าเดินมาก ๆ จะเหนื่อย แต่ได้เพื่อน ๆ คอยช่วยอุ้มพาเรียนหนังสือ
 
ด.ญ. ยาตนา และ ด.ญ.แยม ชาวต่างด้าว  เพื่อนน้องมีน เปิดเผยว่า ตอนที่เรียนอยู่ ป.6 เพื่อนมีร่างกายไม่สมบูรณ์มานานตั้งแต่เรียนอยู่ ป. 1 แล้ว สงสารเพื่อนก็เลยช่วยกันอุ้มพาเรียน ถ้าช่วยพยุงให้เดินแล้วจะต้องช่วยกันพยุง 2 คน จะต้องมีคนถือกระเป๋าและต้องช่วยพยุงก็กลัวเพื่อนจะเจ็บ จึงตัดสินใจใช้วิธีอุ้มดีกว่า เพื่อนต่างห้องเรียนมาเห็นก็ยังมาช่วยกันอุ้มพาเรียนด้วย
 
นางพรพรรณ ปานเนียม มารดา  เปิดเผยว่า ตอนนี้ต้องฟื้นฟูร่างกายน้องไปเรื่อย ๆ ไม่คิดว่าน้องจะรักษายืดเยื้อนานจะครบปีแล้ว ได้เข้าห้องไอซียูตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว น้องได้รับเงินเยียวยาจากการฉีดวัคซีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทาง สปสช.ช่วยเหลือ จำนวน 2 แสนบาท ตอนที่ให้เงินมานั้นน้องยังนอนอยู่ห้องไอซียูอยู่ พอออกมาได้ย้ายมาที่โรงพยาบาลราชบุรีเพื่อคอยดูออกซิเจนน้องที่ยังไม่ดีขึ้น พอได้ระยะหนึ่งก็ต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ น้องเดินได้แต่มีอาการเหนื่อยมาก โดยช่วงแรกมีกฎออกมาให้ไปฉีดวัคซีน อยากให้นักเรียนไปเรียนหนังสือ เป็นช่วงที่มีการระบาด จึงปรึกษาแพทย์แล้วบอกว่าน้องมีกระดูกคดร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่หมอบอกไม่มีผลกระทบอะไรบอกว่าก็เหมือนวัคซีนทั่วไป ซึ่งตั้งแต่น้องเข้าไอซียูก็ไม่ได้ทำงาน ส่วนสามีมีอาชีพเป็นยามรักษาความปลอดภัย ส่วนตัวเองจะค้าขาย และรับจ้างทั่วไปที่ตลาดศรีเมืองได้เงินแบบรายวัน พอน้องป่วยก็หยุดทำงานทุกอย่างทำให้ขาดรายได้  เหลือแต่ของสามีมีรายได้วันละ 370 บาท หากไม่ทำวันไหนก็ไม่ได้เงิน  ตอนนี้ทำเรื่องมารักษาที่โรงพยาบาลราชบุรีแล้ว แต่ก่อนจะพาน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเด็กในกรุงเทพฯซึ่งมีค่าใช้จ่ายการเดินทางมากจึงหาทางลดค่าใช้จ่าย และพยายามหาทางรักษาเพราะน้องมีนอยากเรียน
 
นายอภิเชษฐ์ เกตุกร ผู้อำนวยการโรงเรียนท่ามะขามวิทยา เปิดเผยว่า หลังได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก น้องมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งเคยเดินด้วยตัวเองได้ แต่พอรับวัคซีนแล้วมีผลต่อร่างกายต้องเข้าโรงพยาบาล พอมาอยู่โรงเรียนเข้า ม. 1 พ่อโทรมาบอกอยากขอให้ลูกเข้าเรียน โดยงานแนะแนวระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้คุยกันและพยายามช่วยเหลือครอบครัว ทราบข่าวว่าแม่น้องต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลลูก ส่วนพ่อทำงานคนเดียวรายได้ไม่พอ  โดยการจัดการเรียนการสอนจะจัดตามอาคารเรียนต่าง ๆ ต้องเดินขึ้นลงอาคาร ได้เห็นเพื่อนช่วยกันอุ้มเพื่อนเรียนหนังสือทุกวัน ถือเป็นภาพประทับใจที่เกิดขึ้นในโรงเรียนถึงความมีน้ำใจ จึงรู้สึกเป็นห่วงหลังจากเงินที่ได้รับการเยียวยาจาก สปสช.มา 2 แสนบาท ขณะนี้เงินก้อนนี้ใกล้หมดลง ครอบครัวจะมีปัญหาเพราะมีแต่รายจ่ายทุกวัน  หากมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือไว้เป็นทุนการศึกษาให้น้องมีนได้เรียนหนังสือ และไว้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาตัวจะเป็นแนวทางที่ดีแก่ครอบครัวของน้องมีนในอนาคตได้ 
 
จากภาพที่เพื่อนช่วยอุ้มน้องมีนไปเรียนตามอาคารเรียน ได้กลายเป็นภาพแห่งความประทับใจและความเอื้ออาทรที่มีต่อกันของเพื่อน ๆ ร่วมชั้นเรียนและนอกชั้นเรียนยากที่จะพบภาพแบบนี้ได้ง่ายนักสำหรับความผูกพันที่มีให้กัน แม้จะเป็นเด็กต่างชาติ ต่างภาษาแต่ความมีน้ำใจที่มีให้กันระหว่างเพื่อนที่กำลังทุกข์ยากนั้นน่าชื่นชม ซึ่งตัวน้องมีนยังคงมีความหวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมามีร่างกายแข็งแรงอีกครั้ง และจะได้ตั้งใจเรียนหนังสือมีการศึกษาที่ดี เพื่อมาคอยดูแลครอบครัวในอนาคต
 
ติดตามรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์  ตั้งแต่เวลา 15.45 – 18.00 น.  ทางช่อง7HD กด 35
 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/AbzSxmTe_vk

ข่าวที่เกี่ยวข้อง