คุณอาสาวของเด็กหลานชายวัยเพียง 5 ขวบ ชั้นอนุบาล 3 ทนไม่ไหว เนื่องจากหลานกลับจากโรงเรียนไปถึงบ้าน แต่แขนของน้องมีอาการหักผิดรูป จนรีบส่งโรงพยาบาล พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเด็กแขนหักตอนเที่ยงวัน แต่กลับปล่อยทิ้งไว้ถึง 4 โมงเย็น แถมไม่แจ้งผู้ปกครอง และไม่พาไปหาหมอ
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ลงพื้นที่ ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านรายหนึ่ง คือ นางสาวกรรณิการ์ คำโส อาสาวของน้องเตเต้ ซึ่งได้พาน้องเตเต้ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ซึ่งเป็นหลานของตัวเองมาให้ผู้สื่อข่าวได้ดูสภาพแขนซ้ายที่เข้าเฝือก เนื่องจากแขนหัก
คุณกรรณิการ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้บอกให้พี่ชายไปรับหลานที่โรงเรียนตอนเย็น เพราะตนยังอยู่ในที่ทำงาน โดยพี่ชายได้มาบอกว่า หลานแขนหัก ตนจึงรีบกลับมาดูอาการน้องเตเต้ ซึ่งตอนแรกที่เห็นยอมรับว่า ตกใจมาก ซึ่งน้องก็ร้องไห้จนตัวสั่น ตนจึงได้สอบถามหลาน โดยบอกว่า แขนหักตั้งแต่ตอนเที่ยงวันแล้ว จากนั้นได้นำตัวน้องส่งโรงพยาบาลนางรอง
คุณอาเล่าอีกว่า หลังจากนั้นวันต่อมา ได้ไปสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ได้รับคำตอบครูประจำชั้นแบบแทบน้ำตาไหลว่า “เห็นตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว” แต่เด็กไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ
จากนั้น ทางโรงเรียนได้นำกระเช้ามาขอโทษที่บ้าน พร้อมบอกว่า โรงเรียนจะเยียวยาที่ปล่อยปะละเลยเด็ก และทางผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่าจะขอจ่ายเงินเยียวยาให้เป็นจำนวนเงิน 55,000 บาท และนัดจ่ายเงินในวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางครอบครัวรู้สึกเห็นใจโรงเรียน จึงตกลงกันว่า ทางครอบครัวก็จะมอบเงินจำนวน 20,000 บาท คืนให้โรงเรียนไว้ไปซื้อกล้องวงจรปิด แต่พอถึงวันนัดหมาย ทางครอบครัวได้เตรียมเงินจำนวน 20,000 บาท ใส่ซองไว้เตรียมมอบให้ผู้อำนวยการด้วย
แต่พอครอบครัวเดินทางไปถึงสถานที่นัดหมาย กลับกลายเป็นว่า ผู้อำนวยการและและคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมครูประจำชั้น ที่มากันพร้อมหน้า กลับเอ่ยปากว่า “ไม่มีเงินแม้บาทเดียว ถ้าอยากได้ก็ต้องไปฟ้องเอา”
ขณะที่ทางครอบครัว ได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ แล้ว แต่เรื่องยังเงียบอยู่ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะให้เป็นกรณีศึกษาว่าครูผู้สอนควรจะใส่ใจกับเด็กนักเรียนอย่างไรบ้าง ผู้บริหารควรจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับครูที่ไม่สนใจเด็กนักเรียน
ทีมข่าวได้สอบถาม ด้านนายแพทย์ภานุวัฒน์ นาครินทร์ แพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ โรงพยาบาลนางรอง ให้ข้อมูลว่า อวัยวะแขนหรือขาที่หักหลังจากที่ได้รับการรักษาใส่เฝือกและเมื่อถอดเฝือกออกอย่างไรก็ตามก็ยังต้องคอยระมัดระวังอวัยวะส่วนนั้นเอาไว้ก่อน เพื่อประคองให้กระดูกยึดติดกัน หากอวัยวะส่วนเดิมถูกกระแทกโอกาสที่จะแตกหักก็จะมีสูง
ด้านนายพิชิต วงศาจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านโคกสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการการศึกษาของโรงเรียน บอกว่า ตนได้เข้าร่วมเจรจาในเรื่องนี้แล้ว กรณีเงินค่าเยียวยาจำนวน 55,000 บาท ยอมรับว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เสนอให้กับผู้ปกครองของเด็กจริง แต่พอครบกำหนดจ่ายคือวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่าน กลับไม่ได้จ่ายเงินค่าเยียวยา เนื่องจากหาเงินให้ไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองเด็กไปฟ้องศาลนั้น ตนเองไม่ทราบเรื่องเลย
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยัง นายอุเทน ระวะใจ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ปฏิเสธการให้ข้อมูลและตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 แล้ว
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปสอบถามผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 คือ นายสุชิต ชมพูวงศ์ บอกว่า ปกติครูและผู้บริหารโรงเรียน มีหน้าที่ดูแลเอาใจใส่เด็กนักเรียนทุกคนเสมอกันอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีการสอบสวนคุณครูและผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เท่าที่ทราบครูและผู้อำนวนการโรงเรียน จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่อาจจะติดกับกฏระเบียบบางอย่างทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันพุธที่ 6 ก.ค.นี้ จะมีการนัดหมายคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกันที่เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งคาดว่าจะตกลงกันด้วยดีโดยทั้งสองฝ่าย
ติดตามรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.45 – 18.00 น. ทางช่อง7HD กด 35