ตร.แจ้ง 7 ข้อหาหนัก หนุ่มหลอนยาบ้าบุกสนามบินสุวรรณภูมิ โทษสูงสุดประหารชีวิต #ถกข่าวร้อน

       มีการแชร์คลิปนาทีระทึกของชายคนหนึ่ง ซึ่งเกิดอาการประสาทหลอนจากการเสพยาบ้า โดยอ้างว่ามีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน ได้ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมพกขวานและปืนปลอมบุกเข้าไปในพื้นที่ลานจอดเครื่องบินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และก่อเหตุความวุ่นวายทำลายข้าวของจนพังเสียหาย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 7 ข้อหาหนักกับชายคนนี้แล้ว

 

       เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยชายคลุ้มคลั่งรายนี้คือ นายวัชระ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดเลย ได้ขับรถจักรยานยนต์บุกเข้าไปภายในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับพกปืนปลอมสั้น 1 กระบอก ขวานด้ามเหล็กยาวกว่า 50 เซนติเมตร กรรไกรปลายแหลมด้ามพลาสติก 1 อัน และ ยาบ้าเม็ดสีส้ม 1 เม็ดบรรจุในกล่องพลาสติก ทองรูปพรรณ ก่อนที่จะก่อเหตุความวุ่นวายอย่างที่เราเห็นในคลิป แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้

 

        ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นของผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งยังคงอยู่ในอาการเมาสารเสพติด ทราบว่า มีอาชีพเป็นพนักงานคลังสินค้าแห่งหนึ่งที่ย่านอำเภอบางเสาธง หลังเลิกงานออกกะเช้าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากคลังสินค้ากลับไปที่ห้องพักในเคหะเมืองใหม่บางพลี และได้เสพยาเสพติดจนเกิดอาการประสาทหลอน อ้างว่ามีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบิน จึงคว้าอาวุธขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่สนามบินเพื่อก่อเหตุ 

 

        ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้บุกรุกเข้าพื้นที่เขตการบิน 

นายกิตติพงศ์ เปิดเผยว่า ผู้บุกรุกได้เข้ามาในเขตสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทางคอนโทรลโพสต์สนามบินได้เห็นชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ใกล้คอนโทรลโพสต์ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปห้าม เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ชายดังกล่าว มีการชักอาวุธปืนเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่หลบเข้าที่กำบัง ระหว่างนั้นมีรถของสายการบินที่ผ่านการตรวจเข้าคอนโทรลโพสต์ และประตูเกทเปิดเพื่อให้รถเข้า เป็นจังหวะที่ชายผู้บุกรุกฝ่าเข้าไป โดยใช้ปืนขู่เจ้าหน้าที่บริเวณนั้น จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์วิ่งเข้าไปในเขตลานบิน แต่สุดท้ายเขาขี่รถจักรยานยนต์ไปล้มลงตรงใกล้ๆสะพานเทียบเครื่องบิน วิ่งหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่ ก่อนใช้ขวานจามประตูกระจกแตก เจ้าหน้าที่ติดตามผู้บุกรุกตลอดเวลา ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ได้เห็นว่า ปืนที่ผู้ก่อเหตุคาดเอวอยู่น่าจะเป็นปืนปลอม โดยระหว่างผู้บุกรุกตีกระจกแตก จะเห็นว่ามีการเข้าไปคุยกับผู้บุกรุก ขณะนั้นเป็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเข้าชาร์จผู้ก่อเหตุ ต้องมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปลอดภัย เพื่อไม่ให้ผู้บุกรุกเข้าไปชั้นในอาคารผู้โดยสารได้ ซึ่งการปฏิบัติทั้งหมดได้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้โดยสาร รวมทั้งความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทุกนาย ดังนั้น ทั้งหมดได้ทำตามขั้นตอนที่กำหนดไว้

 

        ผอ.สุวรรณภูมิ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปืนไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สนามบินหลายแห่งในโลกนำกลับมาใช้ เราคงต้องกลับมาพิจารณาพิ่มเติมเพื่อเป็นอุปกรณ์คู่กายเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เวลาเกิดเหตุเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธประจำอยู่ที่กาย แต่อยู่ในสายตาของศูนย์ตลอด เราพยายามเข้าพื้นที่เร็วที่สุด จบเหตุการณ์ใน 10 นาที โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารในอาคาร

 

       ด้าน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งได้ข้อกับผู้ก่อเหตุทั้งสิ้น 7 ข้อหา คือ 1.ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 19 ผู้ใดใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ถ้าการกระทำนั้น เป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท

2.บุกรุก  3.ทำให้เสียทรัพย์  4.พาอาวุธ (ขวาน) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร  5.มียาเสพติดให้โทษ  6.เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 

และ 7.ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว

 

        นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ช่วงปี 2557 เคยโดนจับยา 2 คดี โดยจะนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้