กลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน พร้อมอาวุธปืน บุกกฏิรุมทำร้ายร่างกายพระบวชใหม่ จนได้รับบาดเจ็บพร้อมทำลายข้าวของในกุฏิเสียหายหลายรายการ เหตุจากการโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายและโต้ตอบกันไปมาก่อนบวช
เหตุการณ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุขายฉกรรจ์ 6-7 คน เข้าบุกทำร้ายร่างกายพระลูกวัดจนได้รับบาดเจ็บ และทำลายข้าวของในกุฏิพระพังเสียหายหลายรายการ พบร่องรอยการเสียหาย ประตูกุฏิพังเสียหายทั้งบาน และยังพบร่องรอยรองเท้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ประตูด้วย ภายในกุฏิยังพบบาตรพระ พัดลม และข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
พระนริศ กล่ำทอง (พระแบงค์) อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า วันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 01.00 น. ตนได้ลุกออกมาจากห้องเพื่อมาเอากระติกน้ำ ได้พบเห็น กลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน เข้ามาภายในวัด ตนจึงตะโกนถามว่า “มาหาใคร” ไม่ทันจบคำถาม กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็วิ่งกรูมาหา ตอนนั้นตกใจจึงรีบหนีเข้ากุฏิแล้วปิดประตู แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ถีบประตูกุฏิจนพังเสียหาย และบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บกระดูกซี่โครงร้าว 2 ซี่ บริเวณศีรษะและท้ายทอยมีรอยเขียวช้ำ เนื่องจากถูกพัดลมฟาด
โดยพระนริศ บอกว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็นแฟนของหญิงคนหนึ่งที่เคยมีปัญหากับตนเอง โดยก่อนจะบวชได้มีการโพสต์ท้าทายกันบนเฟซบุ๊ก ทำให้แฟนของหญิงคนดังกล่าวไม่พอใจ จึงตามมาที่วัดเพื่อเคลียร์ปัญหา ซึ่งก่อนเกิดเหตุฝ่ายหญิงได้โทรศัพท์มาแล้ว แต่พระบอกว่ากำลังบวชอยู่ ไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิง รอพระสึกก่อนค่อยมาเคลียร์ปัญหา แต่คาดว่าฝ่ายหญิงน่าจะไปบอกแฟน จนสุดท้ายแฟนของฝ่ายหญิงยกพวกมารุมทำร้าย
ซึ่งลูกวัดที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลา 01.00 น ในวันเกิดเหตุ ได้ยินเสียงกลุ่มชายฉกรรจ์มายืนตะโกนอยู่ที่หน้าห้องของพระนริศ ตนเองจึงชะโงกหน้าไปดู สังเกตเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธปืน พังประตูกุฏิของ พระนริศ เข้าไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงพระแบงค์ร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่กล้าออกมาช่วยเพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลง หลังก่อเหตุไม่นานกลุ่มชายฉกรรจ์ก็พากันหลบหนีขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่บริเวณลานวัดหลบหนีไป ตนเองจึงวิ่งไปดูพระนริศ จึงรีบโทรศัพท์บอกญาติของพระนริศ จากนั้นพาตัวส่งที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ทางด้าน นางสาวพนิดา บุตรสาว อายุ 33 ปี พี่สาวของพระนริศ เล่าว่า หลังทราบว่าน้องชายถูกทำร้ายก็รีบไปที่วัดทันที เห็นสภาพน้องชายบาดเจ็บ และกุฏิพังเสียหาย ตนรู้สึกตกใจและสงสาร เนื่องจากน้องชายเพิ่งจะบวชเมื่อวันที่ 17 เมษายน และตั้งใจจะบวชทดแทนพระคุณแม่ แต่กลับมาเจอกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวบุกมาทำร้ายน้องชายคาผ้าเหลือง ตนเองและครอบครัวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และรู้สึกว่ากลุ่มชายดังกล่าวอุกอาจมากเกินไปที่มาก่อเหตุแบบนี้ เนื่องจากเป็นสถานที่วัด และพระก็ตั้งใจจะบวชเพื่อปล่อยวาง แต่กลับมาถูกกลุ่มชายดังกล่าวทำร้าย
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมหลักฐานติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป