logo ถกไม่เถียง

"อัจฉริยะ" เดินหน้าร้องแพทยสภา ตรวจสอบหมอนิติเวช "คดีแตงโม" ส่อผิดจริยธรรม #ถกข่าวร้อน

ถกไม่เถียง : เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปที่แพทย์สภากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เพ ถกข่าวร้อน,แพทยสภา,ทนายอัจฉริยะ,ผิดจรรยาบรรณ,แพทย์นิติเวช,คดีแตงโม,แตงโมตกเรือ,terodigital,ช่อง7HD,กด35

400 ครั้ง
|
28 เม.ย. 2565
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปที่แพทย์สภากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เพื่อเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ให้ตรวจสอบการให้ความเห็นและคำวินิจฉัยของแพทย์นิติเวชทุกคนและทุกสถาบันที่ให้ความเห็นต่อพนักงานสอบสวนในคดีแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ว่าเป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม กรณีให้ความเห็นว่าบาดแผลที่ขาข้างขวา และบาดแผลอื่นๆถูกใบพัดเรือ
 
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ เดินทางมากล่าวโทษแพทย์นิติเวช ที่มีการวินิจฉัยเรื่องบาดแผลของแตงโม ฐานปิดจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรม โดยสิ่งที่พบเห็นมีหลักฐานชัดเจนว่าบาดแผลครั้งแรกพบ 11 แผล ต่อมาเมื่อไปผ่าพิสูจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กลายเป็น 22 แผล และวันที่แถลงข่าวสรุปสำนวนคดี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา กลับมีบาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีก 4 แผล ซึ่งไม่รู้ว่าเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร
 
โดยประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่ทางแพทย์นิติเวชไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก ว่าเหตุใดจึงพบบาดแผลเพียง 11 แผล ซึ่งเป็นบาดแผลก้างปลา(บาดแผลขนาดเล็ก) เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดจากใบพัดเรือ 
 
นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังมีการนำภาพบาดแผลของเว็บไซต์ต่างประเทศมาเปรียบเทียบกับบาดแผลของแตงโม เรียกว่าเป็นการแหกตาประชาชน เนื่องจากภาพบาดแผลดังกล่าว มีการยืนยันว่าเกิดจากมีด ซึ่งเมื่อนำมาอ้างอิงกับบาดแผลของแตงโมก็มีลักษณะคล้ายกันจึงไม่ใช่การโดนใบพัดเรือแน่นอน
 
สำหรับการแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีครั้งล่าสุด ขอให้ประชาชนไปคิดกันดูว่าขนาดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังแถลงข่าวโดยนำรูปมาแหกตาประชาชน รวมทั้งการเก็บพยานหลักฐานหลายครั้ง ชี้ชัดส่อให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งคณะไม่มีความชอบธรรม และไม่มีความยุติธรรมในการทำคดีดังกล่าวแล้ว
 
อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ 13:00 น. จะเดินทางไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อขอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากส่อไปในเชิงเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยหากยังให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้รับผิดชอบในคดีอยู่ มองว่าคดีดังกล่าวจะไม่ใช่การสืบสวนสอบสวนตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และไม่เป็นธรรม
 
หลังจากนี้จะดำเนินการเอาผิดมาตรา 157 และ 184 กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และคณะที่แถลงข่าวแน่นอน โดยตอนนี้ยังรอคลิปวิดีโอทาง YouTube ที่ถูกลบออกไป โดยจะดำเนินการเอาผิดตั้งแต่ชั้นผู้บัญชาการ คณะทำงาน รวมไปถึงคณะแถลงข่าวทั้งหมด ในความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย
 
ทั้งนี้ หากมีการดำเนินการปิดปากตน ยืนยันว่ามีมาตรการในการตอบโต้อยู่แล้ว โดยตอนนี้มีประชาชนที่ให้กำลังใจ และมีทีมงานต่างๆร่วมช่วยแน่นอน
 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/fugF4Ck3Q8Q

ข่าวที่เกี่ยวข้อง