เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.อุบลราชธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการณ์ในตัวเมือง จ.อุบลราชธานี ทำการจับแม่ค้าขายอาหารเปิดเกินเวลา จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย แม่ค้าโดนกลั่นแกล้ง
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา สื่อโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์การจับกุมร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่เปิดเกินเวลาคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกันอย่างแพร่หลาย
วันที่ 17 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 23.05 น. ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ อส. จำนวน 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านอาหาร 4 แห่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กระทั่งพบร้านอาหารและผู้ใช้บริการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยเปิดเกินเวลา 23.00 น.
จึงควบคุมตัวผู้ฝ่าฝืนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี
ขณะที่เจ้าของร้านอาหารที่ถูกจับกุม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้ามาจับกุมภายในร้านของตนเอง ในข้อหาขายอาหารเกินเวลา 23.00 น. และยึดของกลางเป็นบิลค่าน้ำอัดลม 1 ขวด น้ำแข็ง 1 ถัง จึงเป็นเหตุทำให้เจ้าของร้านและพนักงานภายในร้านไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการขายอาหาร ไม่ได้จำหน่ายสุราแต่อย่างใด
โดยเจ้าของร้านมองว่าเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติในการจับกุม เพราะร้านที่ถูกจับกุมเป็นร้านขายอาหารซึ่งตั้งติดกัน 3 ร้าน ประกอบกับหลายเดือนก่อนหน้านี้ ตนเองเคยพาเจ้าของกิจการร้านอาหารต่าง ๆ ประมาณ 500 คน ไปประท้วงเรื่องความเดือดร้อนของร้านอาหาร ที่หน้าทำการผู้ว่าฯ ส่วนร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกลับไม่ถูกจับดำเนินคดี แต่กลับปล่อยให้เปิดเกินเวลาได้
โดยหลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบก็ได้นำตัวผู้จัดการร้านเข้าห้องขังทันที โดยวางเงินประกันตัวไว้ที่ 40,000 บาท หากไม่มีเงินมาประกันตัวก็จะให้อยู่ในห้องขัง สภ.เมืองอุบลราชธานีต่อไป เพื่อรอนำตัวส่งขึ้นศาล
ซึ่งทางเจ้าของร้านตัดพ้อว่า เศรษฐกิจแบบนี้จะหาเงินจำนวนมากมาจากไหนเพื่อมาประกันตัว ร้านตนเองก็พึ่งเปิดได้แค่ 2 วัน เพราะก่อนหน้านี้ร้านได้ปิดไปหลายเดือน เนื่องจากช่วยรัฐบาลป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ตนมองว่าการจับกุมในครั้งนี้น่าจะตักเตือนกันก่อน เพราะเป็นความผิดครั้งแรก ร้านตนเองเปิดเกินเวลาเพียงแค่ 5 นาที และในร้านก็ไม่มีเครื่องดื่มมึนเมาแต่อย่างใด