ดรามา! พนง.สถานบันเทิงภูเก็ต ชูป้ายตำหนิ ทนายตั้ม หิวแสง ปมแฉเปิดเกินเวลา
logo ข่าวอัพเดท

ดรามา! พนง.สถานบันเทิงภูเก็ต ชูป้ายตำหนิ ทนายตั้ม หิวแสง ปมแฉเปิดเกินเวลา

ข่าวอัพเดท : ทนายตั้ม บุกโรงแรมดังป่าตอง แฉ! เปิดสถานบันเทิงเกินเวลา ก่อนถูก พนง. ชูป้ายตำหนิว่า หิวแสง ทนายตั้ม,ภูเก็ต,พนักงาน,สถานบันเทิง,ชูป้าย,ด่า,หิวแสง,เปิดเกินเวลา,โรงแรม

709 ครั้ง
|
18 เม.ย. 2565
           ทนายตั้ม บุกโรงแรมดังป่าตอง แฉ! เปิดสถานบันเทิงเกินเวลา ก่อนถูก พนง. ชูป้ายตำหนิว่า หิวแสง
 
       จากกรณีเมื่อวันนี้ 16 เม.ย.65 ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ข้อความว่า "ผมได้รับการร้องเรียนจากชาวภูเก็ตว่าได้รับความเดือดร้อน จากโรงแรมป่าตองเบย์ฮิล มีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา มั่วสุม เสียงดังก่อความรำคาญและมีสิ่งผิดกฎหมาย มาเป็นปีๆแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่ก็นิ่งเฉย ผมจึงขอมาดูด้วยตาตัวเอง ปรากฎว่า สถานบันเทิงนี้เปิดยันเช้าจริง และคนเยอะขนาดนี้ หากเกิดคลัสเตอร์ใหม่อีกจะทำยังไง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทำไมปล่อยปละละเลย ให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอีกต่างหาก และเท่าที่ทราบสถานบันเทิงแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตอีกด้วย ผมคิดว่าสถานบันเทิงในโรงแรมที่สามารถเปิดเกินเวลามาเป็นปีๆ มีนักท่องเที่ยววันละเป็นพันคน ไม่มีทางที่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ และน่าจะมีการจ่ายสินบนมหาศาล ขอให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยตรวจสอบว่าทำไม ถึงมีการปล่อยปละละเลยขนาดนี้ มีการทุจริตรับสินบนกันหรือไม่ ในเมื่อนโยบายของท่านคือเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และหากมีเนื้อร้ายก็บอกว่าจะตัดทิ้ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตบกพร่องชัดเจนขนาดนี้ หวังว่าท่านจะทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างนะครับ"
 
           โดย ทนายตั้ม ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้รับข้อความมาจากชาวภูเก็ตหลายคน เขาแจ้งมาว่าที่โรงแรมแห่งนี้เปิดสถานบริการคนแน่นเลย เป็นร้อยเป็นพันคน แล้วก็เปิดยันเช้า ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อผมก็เลยขอมาภูเก็ตก็ขอเข้าไปดูคนเยอะมากจริงๆ ไม่มีการจัดการเรื่องระยะห่าง เรื่องโควิด เรื่องอะไรเลยเหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีโควิดหรือไง แล้วตอนที่ผมมาผมมาตอน 02:00 น. กว่าผมจะออกมาก็ตี 4 แล้ว ก็ไม่มีทีท่าว่าจะปิดเลย ผมก็สังเกตเห็นหลายๆโต๊ะมีบารากู่อยู่ ผมก็ว่าไม่ถูกกฎหมายนะ ผมก็เลยลองสั่งดู จริงๆแล้วเด็กเสิร์ฟเขารู้ว่าเป็นผมนะ บางคนเข้ามาไหว้ทางเจ้าของยังมาไหว้มาทักทายผมเลยว่าพี่ตั้มมาถึงนี่เลยเหรอครับ ยินดีที่มาที่ร้านมีอะไรให้ดูแลบอกมาเลยนะ ผมก็สั่งบารากู่มาเขาก็มาเสิร์ฟผมด้วย แต่ผมสูบไม่เป็น ก็ให้คนอื่นเขาดูดไปควันท่วมเลย ผมก็เอ๊ะทำไมที่ภูเก็ตว่าตำรวจไม่รู้เลยเหรอว่าที่นี่เปิดคนจำนวนเป็นพันคน ไม่รู้เลยเหรอว่าที่นี่เปิด ชาวบ้านที่ติดต่อผมมาชาวบ้านบอกว่าได้ร้องเรียนกับตำรวจแล้ว แต่เขากลับโดนนักเลงมาขู่อีกว่าไปร้องทำไมเขาก็ยังงงว่าไปร้องกับตำรวจแต่ทำไมมีนักเลงมาข่มขู่ เขาก็เลยเกิดความกลัวเขาก็เลยบอกให้ทนายตั้ม มาดูหน่อยเถอะเขาว่าเจ้าหน้าที่ไม่น่าจะพึ่งอะไรได้ สำหรับโรงแรมดังกล่าวเป็นของผู้ที่มีชื่อเสียงและกว้างขวางในพื้นที่มีธุรกิจสถานบริการและโรงแรมที่พักในพื้นที่จำนวนหลายแห่งเป้นที่รู้จักดีของคนในพื้นที่
 
          หลังจากนั้นทนายตั้ม ได้โพสต์เฟซบุ๊กทั้งรูปภาพ และข้อความ อีกครั้ง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เมื่อมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวชูป้าย ต่อว่าตนเอง โดยทนายตั้ม ระบุว่า เจอกลุ่มคนภูเก็ตที่เห็นผิดเป็นชอบ เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจกฎหมายและไม่แคร์ว่าการเปิดสถานบันเทิงแบบไม่มีใบอนุญาตและเปิดเกินเวลา สร้างมลภาวะทางเสียง ทำชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ไม่ต้องหลับต้องนอน นับร้อยคน มาถือป้ายด่าผม กดดันผม ว่าผมหิวแสง เสือก หรือถ้อยคำแรงๆมากมาย บอกเลยผมไม่โกรธครับ เพราะลายมือเดียวกันมาเลย สงสัยนายสั่ง โกรธคำเดียวเรียกผมไอ้แก่ โอ้โห เจ็บจี๊ด555 ที่เจ็บไม่ใช่เพราะอายุครับ แต่เจ็บเพราะคนถือป้าย ทั้งหุ่นทั้งหน้าไปไกลกว่าผมเยอะเลย รอบหน้าช่วยคัดนายแบบมาถือป้ายหน่อยนะ ขอบคุณครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัย ผมไม่ห่วงมาก เพราะถ้าขนาดทนายที่คนรู้จักมากหน้าหลายตาแบบผม ถูกทำร้ายได้ในจังหวัดที่เขาลือกันว่าไม่มีมาเฟีย ไม่มีอันตราย ทั้งที่ออกมาพูดเพื่อผลประโยชน์ของคนในพื้นที่ ผู้หลักผู้ใหญ่เสียแน่นอน ฝากไว้ให้คิดนะครับ
 
        ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล ทษ.สบ.9 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึง กรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการเปิดสถานบริการเกินเวลา ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มีคำสั่งอยู่แล้วว่า การเปิดสถานบริการต้องไม่เกินเวลา 23:00 น. อีกทั้งสถานที่ดังกล่าวเป็นโรงแรมไม่ใช่สถานบริการ ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินการด้านการปกครองของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด จากนี้จะมีการร่วมประชุมในพื้นที่หากว่าโรงแรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดก็จำจะต้องมีการออกคำสั่งปิดโรงแรมก็จะทำการทำหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ปิดโรงแรมดังกล่าวหากเข้าข่ายความผิด เพราะฉะนั้นในส่วนของเรื่องนี้ต้องดำเนินการโดยชัดเจน ซึ่งทางท่านนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไว้แล้วว่าบ่อนการพนันอุบายยมุข รวมถึงสถานบริการ จะต้องไม่มีรวมถึงสถานบริการที่เปิดเกินเวลา ที่สำคัญคือการป้องกันโรคระบาดหากเราไม่เข้มงวดโรคระบาดก็จะกลับมาอีกรอบดึกจะทำให้คนภูเก็ตกลับมาลำบากได้อีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง