สลดส่งท้ายปี ! เหตุเพลิงไหม้โรงแรม เสียชีวิต 3 คน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหตุเพลิงไหม้โรงแรม บนถนนตานี ย่านข้าวสาร มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 7 คน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเร่งหาสาเหตุ

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร บนถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุทำให้มีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ภายในโรงแรมจำนวนมาก ภายหลังพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 3 คน รายที่ 1 เป็นเพศหญิง ชาวต่างชาติ ไม่ทราบชื่อและอายุ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุชั้น 5 ส่วนรายที่ 2 และ 3 เป็นเพศชาย ชาวต่างชาติ ไม่ทราบชื่อและอายุ หมดสติในที่เกิดเหตุ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

 

ล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่า ทางกรุงเทพมหานครได้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตอันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าออกพื้นที่ ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจ สน.ชนะสงคราม เฝ้าตรวจตราความเรียบร้อยของที่เกิดเหตุ

 

สอบถามผู้จัดการแผนกต้อนรับโรงแรมที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักเข้ามา ทั้งหมด 48 ห้อง ตามจำนวนห้องของโรงแรม แต่ตอนเกิดเหตุ มีเข้าเช็กอินเพียง 38 ห้อง ซึ่งตอนนี้ลูกค้าที่มีความประสงค์จะพักต่อ ทางโรงแรมจึงได้ประสานไปที่โรงแรมย่านสี่แยกราชประสงค์ โดยสำรองห้องพัก เอาไว้ 40 ห้อง แต่ทราบว่า ลูกค้าไม่ได้เข้าพักทั้งหมด

 

ขณะเดียวกันวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทีมฝ่ายวิศวกรโยธากรุงเทพและวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า คาดว่าต้นเพลิงมาจากชั้น 5 ห้องหมายเลข 511 ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหลังของอาคาร ไม่ติดถนน แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้แน่ชัด เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ พบว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารดัดแปลงจำนวน 11 ห้องแถว พื้นที่รวมประมาณ 1,515 ตารางเมตร ได้รับการขออนุญาตถูกต้องเมื่อปี 2563

 

สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งก็ได้รีบมาที่เกิดเหตุภายใน 5 นาที โดยพบว่า มีกลุ่มควันหนาแน่นเป็นจำนวนมากภายในอาคาร เลยทำให้ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่อพยพหนีขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 34 คน จากจำนวนผู้เข้าพักอาศัยทั้งหมด 75 คน ส่วนที่เหลือพักอาศัยอยู่ด้านล่างที่สามารถหนีออกมาได้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถกระเช้าลำเลียงผู้ประสบภัยจากชั้นดาดฟ้าลงมา

 

และจากการเข้าสำรวจอาคารหลังเกิดเหตุพร้อมทีมวิศวกรและฝ่ายโยธา พบว่า อาคารหลังดังกล่าว มีบันไดหนีไฟ 2 จุด และมีอุปกรณ์ถังดับเพลิงครบถ้วน เพียงแต่อาคารหลังดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ที่ต้องบังคับติดตั้งสปริงเกอร์ เพราะเป็นเพียงอาคารขนาดเล็ก แต่หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบ ทั้งแบบแปลนและระบบเตือนป้องกันไฟอย่างละเอียด

 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายเจฟ อายุ 34 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่ว่า เดินทางมาที่ไทยได้ 2 สัปดาห์แล้ว และเป็นการมาครั้งที่ 2 โดยมาพักกับเพื่อนที่โรงแรมนี้ ห้องพักของเขาอยู่ที่ชั้น 4 ตอนนั้นได้กลิ่นควันแต่คิดว่าเป็นควันบุหรี่ จึงเปิดประตูและหน้าต่างออกมาดู เห็นกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก ตนกับเพื่อนจึงได้หนีขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งทันทีที่ขึ้นไปก็เห็นว่ามีผู้หลบอยู่บนดาดฟ้าประมาณ 40 กว่าคนได้ ทุกคนอยู่ในสภาพหวาดกลัว แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว และให้ความช่วยเหลือ ด้วยการนั่งกระเช้าเครนลงมาด้านล่าง พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมถึงกู้ภัย ที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ทำให้เขาหนีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไฟไหม้ได้

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากตำรวจ สน.ชนะสงคราม ว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ได้สอบปากคำนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 3 ราย ที่เป็นผู้พักอาศัยในห้อง 511 ที่คาดว่าเป็นห้องต้นเหตุ โดยทั้ง 3 คน ให้การยืนยันตรงกันว่า ไม่ได้อยู่ห้องในขณะเกิดเหตุ และไม่ได้เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้

 

แต่ผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่กับพบหญิงชาวบราซิล เสียชีวิตในห้อง 511 ทั้งที่ผู้เสียชีวิตเช็กอินที่ห้อง 502 และที่สำคัญเธอเพิ่งจะถูกขอแต่งงาน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

เรื่องนี้ พันตำรวจเอก สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม บอกว่า หญิงที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเป็นชาวบราซิล เพิ่งจะเข้าพิธีหมั้นกับแฟนหนุ่มได้ไม่เกิน 10 วัน และทั้ง 2 คน ตัดสินใจมาท่องเที่ยวฮันนีมูนกันที่เมืองไทย ตามแผนจะต้องเดินทางกลับเวลาเที่ยงคืน

 

แฟนหนุ่มที่เป็นผู้รอดชีวิตให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ตอนนั้นได้พยายามที่จะพาแฟนสาวหลบหนี แต่เพราะกลุ่มควันขโมงจนมองทางไม่เห็น จึงเกิดพลัดหลงกัน กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปลำเลียงผู้ติดค้างในอาคาร ถึงเจอว่าแฟนสาวของตนเสียชีวิตแล้ว ส่วนแฟนสาวไปอยู่ที่ห้อง 511 ได้อย่างไร ไม่ทราบได้ โดยงานนี้ตำรวจต้องตรวจสอบรายละเอียดว่า ทำไมผู้เสียชีวิตมาเสียชีวิตที่ห้องต้นเพลิง

 

ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นชาย 2 คน พบเป็นชาวยูเครน กับชาวอเมริกัน ทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนที่เข้าพักห้องเดียวกัน ส่วนเรื่องสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ตอนนี้ตำรวจยังไม่สรุปว่าเกิดจากอะไรแน่ พฐ.อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ จึงตั้งข้อสันนิษฐานกว้าง ๆ ว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร, คนสูบบุหรี่

 

นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รัฐบาลเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจะมีการเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต วงเงิน 1 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บ เยียวยาวงเงิน 500,000 บาท ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ตัวตนสัญชาติ และติดต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ