รพ.ทำงง! พ่อกระเตงลูกน้อยรักษาหลายรพ. หลังที่แรกบอกผลเป็นลบ #ถกข่าวร้อน

          ประเด็นการติดเชื้อโควิดในเด็กเล็กที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมีให้เห็นเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง เรามักจะได้เห็นข่าวที่คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกน้อยไปรักษาตามสถานที่ต่างๆ และตามมาปัญหาต่างๆ เช่น สถานพยาบาลไม่รับรักษา หรือกรณีไปตรวจสถานพยาบาลที่แรก ผลออกมาว่าเด็กไม่ติดเชื้อ แต่พอไปตรวจอีกที่กลับพบว่า เด็กติดเชื้อ  ล่าสุด เกิดปัญหานี้ขึ้นอีกแล้ว 

 

              นี่เป็นภาพที่มีการแชร์จากเพจสายไหมต้องรอด เป็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการโพสต์ข้อความระบุว่า ทารกน้อยวัย 9 เดือน มีไข้สูง 39 - 40 องศา ครอบครัวพยายามเช็ดตัว แต่ไข้ไม่ลด คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจพาทารกน้อยขับรถไปโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ ซึ่งระหว่างทางรถติดมาก จู่ๆน้องเกิดอาการชักเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง หมดสติ และหัวใจหยุดเต้น  คุณพ่อจึงตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้ข้างทาง อุ้มลูกน้อยวิ่งขึ้นวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างรีบไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงคุณหมอได้ตรวจ ATK พบว่า ผลเป็นลบ และแจ้งว่า น้องไม่ได้ติดโควิด แค่ป่วยเป็นหวัดธรรมดา แต่หากจะให้ทางโรงพยาบาลรับตัวน้องเข้ารับการรักษา จะต้องถูกส่งไปอยู่ห้องรวมกับเด็กที่ติดเชื้อโควิด เพราะห้องเด็กปกติเตียงเต็ม  

 

              ทางครอบครัวจึงปฏิเสธ เนื่องจากเห็นว่าลูกไม่ได้ติดเชื้อ จะให้ไปนอนรวมกับห้องติดเชื้อได้อย่างไร จากนั้นได้พาน้องไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเข้ารับการรักษา ขณะที่เดินทางน้องเกิดอาการชักขึ้นมาอีกครั้งและมีไข้สูงมาก พอถึงโรงพยาบาลก็รีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน เร่งตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้ง ปรากฎว่า ผลการตรวจเป็นบวก ทั้งๆที่ตอนตรวจที่โรงพยาบาลแห่งแรงไม่พบเชื้อ และตรวจห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้พาน้องกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์  เพื่อที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 

 

              นอกจากนี้ หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกสิทธิ UCEP COVID ไปแล้ว ทำให้การตรวจรักษาโควิดที่โรงพยาบาลที่ 2 และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่ 2 กลับไปโรงพยาบาลตามสิทธิ มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 16,553 บาท ซึ่งทางครอบครัวต้องออกเองทั้งหมดไม่สามารถเบิกได้   คุณพ่อจึงติดต่อขอความช่วยเหลือมายังเพจสายไหมต้องรอดเพื่อขอคำปรึกษา