จากกรณีเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ถูกข่มขืนกระทำชำเราจนตั้งครรภ์ และคลอดลูก จากนั้นครอบครัวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนหนึ่ง ที่เป็นผู้ต้องสงสัย แต่ชายคนดังกล่าวให้การปฏิเสธ จึงมีการร้องขอให้ตรวจ DNA ปรากฏว่าผลที่ออกมากลับไปตรงกับพ่อแท้ ๆ ของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 แม่ของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายอายุ 51 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราลูกสาว จนตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมา
จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงเรียกชายอายุ 51 ปี ผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งชายอายุ 51 ปี ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำ ก่อนจะขอให้ตำรวจทำการตรวจ DNA ซึ่งผลตรวจปรากฏว่าไม่ตรงกับชายอายุ 51 ปี ผู้ที่ถูกกล่าวหา
ต่อมาทางครอบครัวของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ได้ไปขอความช่วยเหลือกับ หมอปลา เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ดำเนินการพิสูจน์ความจริงในเรื่องดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ภรรยาของหมอปลา พร้อมด้วย ทนายโนบิตะ ได้เดินทางไปพบกับพ่อและแม่ของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และขอให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากนั้นได้มีการขอให้มีการตรวจ DNA รอบที่ 2 ซึ่งการตรวจรอบนี้ตำรวจได้เก็บตัวอย่างจากผู้ที่ถูกกล่าวหาและญาติไปด้วย โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ผลตรวจรอบ 2 ออกมา ปรากฏว่า DNA ไปตรงกับพ่อแท้ ๆ ของเด็กอายุ 12 ขวบ ตำรวจจึงได้เชิญตัวผู้เป็นพ่อมาสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นผู้เป็นพ่อได้ให้การปฏิเสธ ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร และได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อรูปคดี
ส่วนเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ยืนยันว่า พ่อของตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ คนที่ทำ คือ ชายอายุ 51 ปี ซึ่งกระทำบริเวณเถียงนาใกล้กับที่ตัวเองเคยไปเลี้ยงวัว เมื่อเห็นผล DNA ที่ออกมาก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้
ด้าน แม่ของเด็กหญิงอายุ 12 ขวบ ยังคงติดใจกับผลของ DNA ซึ่งหลังจากนี้จะยื่นคำร้องขอดูเอกสารผลการตรวจ และยื่นหลักฐานขอให้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวสามี มั่นใจว่า สามีไม่ได้เป็นคนกระทำลูกสาวของตัวเองแน่นอน
ฟากชายผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนกระทำชำเราเด็ก ให้สัมภาษณ์ว่า หลังเกิดเหตุตนไม่สามารถออกหางานทำได้ต้องขายวัวเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่หลังจากการตรวจ DNA รอบที่ 2 ผ่านไป และผลออกมาไม่ตรงกับตัวเอง ก็รู้สึกโล่งอกสภาพจิตใจดีขึ้น
ต่างกับก่อนหน้านี้ตนตกเป็นจำเลยของสังคมไปไหน ก็ต้องก้มหน้าไม่มีใครอยากจะคบหาทักทาย เพราะมองว่าตนเองเป็นคนกระทำชำเราข่มขืนเด็กน้อย จะหางานทำเพื่อจุนเจือครอบครัวก็ทำได้ยาก แต่เมื่อผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ออกมาเช่นนี้ ก็รู้สึกดีมากๆ เบาใจขึ้นพร้อมกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติได้
+ อ่านเพิ่มเติม