แม่ค้าสุดช็อก! เล่านาทีแท็กซี่เสียหลักพุ่งชนร้านขายส้มตำ ริมถนนรัชดาฯ
logo ข่าวอัพเดท

แม่ค้าสุดช็อก! เล่านาทีแท็กซี่เสียหลักพุ่งชนร้านขายส้มตำ ริมถนนรัชดาฯ

ข่าวอัพเดท : แม่ค้าสุดช็อก แท็กซี่เปลี่ยนเลนจะลงอุโมงค์ลอดแยกสุทธิสาร หักหลบรถตัดหน้า เสียหลักพุ่งชนร้านส้มตำ ริมถนนรัชดาฯ แม่ค้า,แท็กซี่,ร้านขายส้มตำ,เสียหลัก,หักหลบ,เปลี่ยนเลน,พุ่งชน,นาทีชีวิต

519 ครั้ง
|
18 ก.พ. 2565
       แม่ค้าสุดช็อก แท็กซี่เปลี่ยนเลนจะลงอุโมงค์ลอดแยกสุทธิสาร หักหลบรถตัดหน้า เสียหลักพุ่งชนร้านส้มตำ ริมถนนรัชดาฯ
 
      วันที่ 17 ก.พ.65 เมื่อเวลา 04.45 น. ร.ต.อ.สัญญา เชียงมา รองสารวัตร(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถแท็กซี่พุ่งชนร้านขายอาหาร บริเวณช่วงปากซอยรัชดาภิเษก 22 ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ทิศทางมุ่งหน้าแยกสุทธิสาร แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จราจร สน.สุทธิสาร
 
         ที่เกิดเหตุบนทางเท้าริมถนน พบรถแท็กซี่สาธารณะ สีชมพู สภาพด้านท้ายและหน้ารถพังยับเยินพุ่งชนเข้าไปบริเวณร้านขายส้มตำ โดยมีรถเข็นขายของ ป้ายโฆษณาริมถนน และท่อน้ำหัวจ่ายดับเพลิงริมทางเท้าเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
 
         จากการสอบสวน นายเทพมงคล จันทร์หอม อายุ 27 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากอู่แท็กซี่ ซอยรัชดาภิเษก 18 และขับรถวิ่งมาตามถนนรัชดาภิเษก ขาเข้าเพื่อหารับผู้โดยสาร ระหว่างขับรถอยู่ในช่องทางเลน 3 กลางถนนและกำลังจะเปลี่ยนเลนขวาสุด เพื่อจะลงอุโมงค์ลอดแยกสุทธิสาร จู่ๆได้มีรถยนต์วิ่งแซงมาด้วยความเร็วในเลนขวาสุด  ด้วยความตกใจจึงหันพวงมาลัยรถหลบ ทำให้รถจะเสียหลักหมุนไปฟาดกับท่อหัวจ่ายน้ำดับเพลิงริมทางเท้า ก่อนที่รถจะพุ่งเสยเข้าไปในร้านขายอาหารริมถนนดังกล่าว ซึ่งขณะเกิดเหตุมีฝนตกถนนเปียกลื่นจึงทำให้รถหมุนลื่นไถล
 
        ด้านป้าน้อย อายุ 60 ปีแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวให้การว่า ขณะที่ตนกำลังยืนลวกเกี๊ยวอยู่หน้าร้าน ได้หันมองเห็นรถแท็กซี่เบรกรถเสียงดังสนั่น ก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนฟาดกับท่อหัวจ่ายน้ำดับเพลิงริมถนน และพุ่งเสยเข้าไปหน้าร้านขายส้มตำใกล้เคียงกัน ตนรู้สึกตกใจมากจึงกระโดดวิ่งหนีตาย คิดว่ารถแท็กซี่จะพุ่งเข้ามาในร้าน และโชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ
 
           เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งดำเนินคดีกับโชเฟอร์แท็กซี่ในข้อหา”ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์”ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง