แฉพฤติกรรม ผอ.รร. ที่ชัยภูมิ ใช้ครูเยี่ยงทาส เลี้ยงลูก-ซักชุดชั้นใน แม้จะเป็นนอกเวลาราชการ

กำลังมีประเด็นร้อนในโลกโซเชียล จากกรณี มีการโพสต์แฉพฤติกรรม ผอ.โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เห็นครูเป็นทาสรับใช้ ทั้งใช้ซักผ้า-ชุดชั้นใน เลี้ยงลูกตนเอง แม้จะเป็นนอกเวลาราชการ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 มีประเด็นร้อนจากในโลกโซเชียล จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก ‘วันนั้นเมื่อฉันสอน’ ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา แฉพฤติกรรม ผอ.โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเห็นครูเป็นคนรับใช้ โดยมีการระบุถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ ผอ.สาว อย่างชัดเจน โดยมีใจความว่า

1.ให้ข้าราชการครูไปรับใช้ เหมือนเป็นคนรับใช้ ซื้อ-ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ทั้งในและนอกเวลาราชการ ให้คอยดูแลลูก ดูแลหมา ทำงานบ้านซักเสื้อผ้า ชุดชั้นในทั้งของตัวเอง  แฟนชาวต่างชาติ และคนในครอบครัว

2.เป็น ผอ.นักล่ารางวัล โชว์ผลงานของตนเอง บีบบังคับให้ข้าราชการครูทำผลงานช่วยตนเองจนดึกดื่น ให้ครูบางคนทิ้งงานสอนมาทำงานพวกนี้เป็นประจำ ครูบางคนมีลูกมีครอบครัวต้องกลับไปดูแล แต่บีบบังคับ กดขี่ข่มเหง โดยใช้อำนาจของตนเองให้ครูอยู่ช่วยงานตนเองจนเสร็จดึกดื่น

3.เป็น ผอ.ที่ชอบใช้คำหยาบคาย ด่าทอข้าราชการครูด้วย เช่น กู มึง โคตรโง่ มักจะมีพฤติกรรมโมโหร้ายกับข้าราชการครูที่อยู่ใกล้ชิดอยู่เสมอ

4.ผอ.จะใช้รถตู้โรงเรียน ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนกลาง ไปรับ-ส่งลูกไปโรงเรียนทุกอาทิตย์ จากอำเภอ....ไปถึงอำเภอเมืองชัยภูมิ ใช้ไปทำธุระส่วนตัว เสริมสวยทั้งในจังหวัด และต่างจังหวัดเป็นประจำ โดยมีการเบิกบิลน้ำมันเชื้อเพลิงจากงบของโรงเรียน

5.ผอ.เดินทางไปท่องเที่ยวหาแฟนชาวต่างชาติ ที่ต่างประเทศ เป็นเวลา 1 เดือน โดยไม่ขออนุญาตจากต้นสังกัด และยังบังคับให้ข้าราชการครูไปนอนเฝ้าลูก เฝ้าหมา ทั้งยังต้องทำงานบ้าน ซักผ้า ซักชุดขั้นในให้ลูก เก็บกวาดล้างขี้หมา อยู่ที่บ้านเช่าของตนเอง 24 ชั่วโมง โดยไม่เต็มใจ

ทั้งนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทีมผู้สื่อข่าวประจำ จ.ชัยภูมิ ได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์กับนายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผอ.สพม.ชัยภูมิ บอกว่าได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทราบว่าเป็นโรงเรียนในเขต อ.เทพสถิต เมื่อวานที่ผ่านมา( 15 กุมภาพันธ์ )ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่ได้รับร้องเรียนเข้ามาแล้ว พร้อมได้ส่งรอง ผอ.สพม.ชัยภูมิ พร้อมคณะกรรรมสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้ข้อสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ไม่เกิน 7 วัน และลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำความผิดต่อไป