logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

รวบแล้ว ! พันเอกหญิง-แพทย์หญิง เครือข่ายทุจริตยา | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รวบแล้ว พันเอกหญิง และ แพทย์หญิง ตัวการสำคัญ คดีทุจริตยา โรงพยาบาลทหารผ่านศึก แฉเส้นทางการเงิน เสียหา ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ,จีรนันท์ เขตพงศ์,สันติวิธี พรหมบุตร,บุญชงสงตอบ,ทนายบุญ

829 ครั้ง
|
26 มี.ค. 2568
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รวบแล้ว พันเอกหญิง และ แพทย์หญิง ตัวการสำคัญ คดีทุจริตยา โรงพยาบาลทหารผ่านศึก แฉเส้นทางการเงิน เสียหายกว่า 80 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบร้านขายยา กระทำผิดถึง 6 ร้าน
 
ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อม เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุมบุคคล ตามเป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโรงพยาบาลทหารผ่านศึก 17 จุด มีทั้งในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี ปราจีนบุรี และชลบุรี โดยมีหมายจับผู้ร่วมอยู่ในขบวนการทั้งหมด 8 หมายจับ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือ ที่พักของ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ หรือ จิ้งหรีด ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย เพราะถือเป็นหัวหน้าขบวนการ โดยมีทำหน้าที่จัดหาแม่ทีม และเครือข่ายจาก จังหวัดลพบุรี เพื่ออ้างเป็นผู้ป่วย จากนั้นก็ให้เข้ามารับยา จากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
 
และบุคคลที่อ้างเป็นผู้ป่วย ก็นำยาทั้งหมดที่ได้ ไปให้กับแม่ทีมเครือข่าย เพื่อแลกกับค่าจ้าง 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัว อีกรายละ 1,500 บาท และแม่ทีมก็จะนำยาทั้งหมดมา ส่งมอบให้กับ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ หัวหน้าขบวนการ ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 4
 
ทั้งหมดนี้ถือเป็นหลักฐาน ทำให้ตำรวจเข้าจับกุม พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ พร้อมตรวจค้นคอนโดมิเนียมอย่างละเอียด เพราะเป็นจุดพักยาที่ได้มาจากการทุจริตเครือข่ายนี้
 
เมื่อได้ยามาแล้ว พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ จะนำยามาเก็บไว้ในร้านซักร้านที่ชั้นลานจอดรถ ระหว่างคุมตัวไปตรวจค้น เธอมีท่าทางอิดโรย วูบจะเป็นลม ตำรวจต้องประคองไปนั่งในร้าน ก่อนตรวจค้น สามารถยึดถุงกระสอบขนาดใหญ่ ลักษณะเดียวกับที่ใส่ยาที่ได้จาก โรงพยาบาลทหารผ่านศึกมาพักไว้
 
ขณะเดียวกัน แนวทางการสืบสวนพบว่า เมื่อนำยามาพักไว้ ร้านซักรีดย่านพระราม 4 ก็จะมีการ ส่งยาไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ให้กับบุคคลที่ประกอบธุรกิจขายยา เพื่อให้ทำหน้าที่ในการกระจายยา นำเข้ามาในระบบยาที่เป็นยี่ปั๊วเถื่อน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และนำเข้าสู่ร้านขายยา
 
ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ พบในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท ขณะที่ความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าว พบเงินหมุนเวียน ในขบวนการนี้ตั้งแต่ปี 2561 มีประมาณ 80 ล้านบาท รวมทั้งหมด 7 ปี
 
หลังจากตรวจค้นคอนโดประมาณ 20 นาที ตำรวจก็ควบคุมตัว พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ ขึ้นรถไปสอบปากคำต่อที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเธอได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
 
ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า มีการรู้เห็นเกี่ยวกับขบวนการนี้หรือไม่ แต่ พ.อ.หญิงกัญญารัตน์ ปฏิเสธไม่ตอบคำถามใด ๆ อย่างไรก็ตาม ทราบว่า พ.อ.หญิงกัญญารัตน์ ป่วยเป็นโรควัณโรค และมีอาการไอเป็นเลือด สภาพร่างกายจึงไม่พร้อมมากนัก
 
เบื้องต้นถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร อันเป็นเท็จ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
 
อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ บ้านพักของแพทย์หญิงบรินดา ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งตั้งอยู่ในย่านลาดพร้าว 71 บุคคลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวการ สำคัญเพราะเป็นแพทย์ของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ทำหน้าที่สั่งจ่ายยา โดยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริง ให้กับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้
 
สำหรับแพทย์หญิงบรินดา ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ม.157, เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร อันเป็นเท็จ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
 
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าจับกุมแม่ข่าย และผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการ รวมถึงเข้าตรวจค้นร้านขายยา ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 11 จุด และชลบุรี ด้วย
 
ภายหลังเข้าตรวจค้นตามจุดต่าง ๆ ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ก็ได้แถลงผลปฏิบัติการ สยบนาคี ล้างบางเส้นทางยาเถื่อน ระบุว่า จากการตรวจสอบขบวนการดังกล่าว สามารถระบุตัว ผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 12 คน ออกหมายจับแล้ว 8 คน ส่วนอีก 4 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยทั้ง 12 คนนี้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 4 คน จังหวัดปราจีนบุรี 2 คน และ ที่จังหวัดลพบุรี 6 คน
 
ส่วนของกลางซึ่งเป็นวัตถุพยานที่ตรวจยึดมาได้วันนี้ เป็นเงินสดจำนวน 10.9 ล้านบาท สมุดบัญชี 18 เล่ม โฉนดที่ดิน 16 ฉบับ รวมถึงตัวยา กล่อง ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ
 
ส่วนร้านขายยาที่เข้าตรวจค้นจาก 11 ร้าน มี 5 ร้านที่ไม่ได้กระทำความผิด เนื่องจากมีเภสัชกร แสดงตัวชัดเจน รวมถึงมีการจัดทำบัญชีสามารถตรวจสอบได้
 
ส่วนอีก 6 ร้านที่เหลือ พบว่ามีการขายยาในช่วงที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงพบว่ามีการขายยา กลุ่มยาที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในส่วนนี้ถือเป็นกฏหมายที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งผิดตามประมวลกฏหมายอาญายาเสพติด ก็จะมีโทษหนักเพิ่ม เติมขึ้นไปอีก โดยยาส่วนใหญ่เป็นประเภท ยานอนหลับ ที่นำมาจำหน่าย อีกทั้ง 1 ใน 6 ร้านนี้ มีสถานที่หนึ่ง เป็นเพียงตึกแถวปิดไว้ ไม่มีใบอนุญาตขายยา จะถูกดำเนินคดีฐาน ขายยาไม่ได้อนุญาต
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง