เจ้าท่าฯ ฟันเพิ่ม 4 ข้อหา หลัง สตาร์ ปิโตรเลียมฯ ทำน้ำมันรั่วซ้ำ พร้อมแอบใช้ทุ่นเทียบเรือ-เจตนาทำลายหลักฐาน
logo ข่าวอัพเดท

เจ้าท่าฯ ฟันเพิ่ม 4 ข้อหา หลัง สตาร์ ปิโตรเลียมฯ ทำน้ำมันรั่วซ้ำ พร้อมแอบใช้ทุ่นเทียบเรือ-เจตนาทำลายหลักฐาน

365 ครั้ง
|
11 ก.พ. 2565

เจ้าท่าฯ แจ้ง 4 ข้อหา สตาร์ ปิโตรเลียมฯ หลังทำน้ำมันรั่วซ้ำ พร้อมฝ่าฝืนคำสั่งแอบใช้ทุ่นเทียบเรือ-เจตนาทำลายหลักฐาน วอนตร.พิจารณาห้ามปล่อยตัวชั่วคราว

 

วันที่ 11 ก.พ. 2565 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณี บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ทำน้ำมันรั่วซ้ำตรงบริเวณเดิม ว่า ทาง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง ในฐานะผู้เสียหาย ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับกรรมการบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้กระทำความผิด และบุคคลที่ในส่วนเกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

 

โดยแบ่งออกเป็น 4 ฐานความผิด คือ 1.ฐานความผิดตามาตรา 119 ทวิทวิแห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 กรณีก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดซึ่งได้ร้องทุกข์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565

 

2.ฐานความผิดมาตร 297 แห่งพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และแก้ไขเพิ่มเติม ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่า ที่สั่งให้ระงับการใช้งานทุ่นเทียบเรือจนกว่าจะซ่อมแซมแก้ไขให้แล้วเสร็จ รวมทั้งจะต้องใช้ความระมัดระวังโดยกำหนดขั้นตอนและวิธีการตลอดจนมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการรั่วไหลในขั้นตอนการแก้ไขหรือซ่อมแซม

 

โดยจะต้องมีหลักฐานการตรวจสอบที่สามารถยืนยันว่า ไม่มีน้ำมันค้างท่อส่งสินค้า และแจ้งให้สำนักงานเจ้าท่าฯ ทราบก่อนดำเนินการทุกครั้ง พร้อมทั้งจัดทำมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล แต่บริษัทฯ กลับฝ่าฝืนคำสั่งโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่อีกครั้ง รวมทั้งไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่อก่อนการดำเนินการ จนเป็นเหตุให้น้ำมันรั่วลงทะเล

 

3.ในฐานความผิดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

 

และ 4.ฐานความผิดตามกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กฎหมายควบคุมมลพิษ เป็นต้น เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป

 

“จากการพิจารณาพฤติกรรมแห่งการกระทำความผิดครั้งนี้ มีเหตุเชื่อได้ว่าผู้กระทำความผิดมีเจตนายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานซึ่งใช้ในการกระทำความผิด ทำให้เป็นอุปสรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของพนักงานในคดีที่ร้องทุกข์ไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2565 จึงขอให้พนักงานสอบสวนพิจารณาสั่งการไม่ให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวผู้กระทำความผิดในคดีอาญา”

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. เวลาประมาณ 09.20 น. เกิดเหตุ น้ำมันดิบของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บริเวณทุ่นเทียบเรือชนิด SINGLE POINT MOORING รั่วไหลลงทะเลน่านน้ำไทย ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ อันเป็นความผิดตามมาตรา119 ทวิแห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535