ยังคงมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ในคดีของ “แอม ไซยาไนด์” โดยล่าสุดมีการแต่งตั้ง “ทนายกฤษณะ” เป็นทนายร่วม อีกทั้งทนายกฤษณะ เผยว่า แอมตอนนี้ ซูบหนัก น้ำหนักลด 10 กิโลกรัม พร้อมคิดจะฆ่าตัวตายตลอดเวลา แต่ยังยืนยันจะให้แอมรับสารภาพ หากทนายปากแดงให้สู้ ตนพร้อมถอนตัว !
วันที่ 25 พ.ค. 66 กฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความคนใหม่ของ "แอม ไซยาไนด์" เล่าว่า ตนถูกแต่งตั้งให้เป็นทนายของแอม คู่กับทนายพัช ตนอยากไขความจริงคดีนี้ให้กระจ่าง และจะช่วยทวงความยุติธรรมให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้คิดว่าจะช่วยแอมอย่างเดียว ตนจะให้ข้อคิดในข้อกฎหมายกับเขา ให้เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดหรือถูก อีกทั้งตนยังบอกกับแอมว่า ให้รับสารภาพ และถ้าทนายพัชให้สู้ ตนพร้อมจะถอนตัวในทันที
ทั้งนี้วันที่ 15 พ.ค. 66 ตนได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับแอมเรื่องการแต่งตั้งตนเป็นทนายใหม่ ซึ่งแอมบอกว่าจะรับสารภาพ โดยบอกกับตนว่า เอาไซยาไนด์มาจากนายแด้ โดยผสมในแคปซูลทีละนิด นอกจากนี้แอมยังให้ข้อมูลที่ทำให้ตนตกใจ คือมีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องในการส่งพัสดุ และเป็นคนมีชื่อเสียง อีกทั้งที่แอมจะสารภาพนั้น เพราะแอมอยากให้คนข้างนอกสบายใจ โดยคนดังกล่าวคือญาติ ถัดมาวันที่ 24 พ.ค. 66 วันนั้นตนตกใจมาก เพราะเขาผอมมากน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม ความดันขึ้น และตาแดงตลอดเหมือนคนร้องไห้ อีกทั้งยังมีภาวะหัวใจผิดปกติ และเขายังบอกว่าคิดจะฆ่าตัวตายตลอด
สำหรับประเด็นเงินค่าจ้างทนาย 100 บาท มันเริ่มมาจากตนได้เคยเจอทนายพัชหลังจากคุยกับแอมเสร็จแล้ว ตนได้พยายามขอเข้าไปคุยกับเขา แต่เขาตอบตนกลับมาว่า "ไม่มีอะไรกับคุณ" แล้วเขาก็ไปให้ข่าวว่าตนไปขอคิดว่าว่าความ 100 บาท แล้วแอมบอกว่าไม่มี สัญญาการแต่งตั้งเลยเป็นโมฆะ ซึ่งตนมองว่าเขาเป็นทนายเหมือนกัน ควรจะให้เกียรติกันกว่านี้ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันบิดเบือน
ฟาก รพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ เผยว่า ตนถูกฟ้องโดยผู้ต้องหา(แอม) ที่มอบอำนาจให้กับทนายความยื่นฟ้องมาที่ตน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่ตนได้พูดในรายการถกไม่เถียง ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 66 ตนได้พูดไว้ว่าแอมโกหกตำรวจ และปั่นหัวตำรวจ ทว่าตนไม่ค่อยกังวลใจในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่พูดออกไปมันคือเรื่องจริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ที่สำคัญตนยังได้ทนายเดชาเข้ามาช่วยดูแลคดี ก้ยิ่งหายห่วง
ด้าน เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ กล่าวว่า เรื่องที่นายรพีถูกฟ้อง ตนไม่ได้กังวลอะไร คิดว่าศาลน่าจะไต่สวนแล้วยกฟ้อง ตนเป็นห่วงฝั่งโจทก์กับทนายของโจทก์มากกว่า เพราะถ้าหากมันเป็นความเท็จ ตนก็พร้อมฟ้องกลับในทันที ที่น่าแปลกใจคือ ในบัญชีพยานไม่มีชื่อของทนายพัช ทั้งที่เขาเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนจากแอม ซึ่งปกติแล้ว ผู้รับมอบอำนาจจะมีชื่อเป็นพยาน
ฟาก ชลิดา พะละมาตย์ (อ้อ) ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ วินวิน เล่าว่า คุณแก้วเป็นคนที่แอมไว้ใจมากที่สุด แต่เรื่องของกลางนั้น คุณแก้วไม่ทราบมาก่อน ซึ่งหลังจากทราบว่าเป็นของกลาง ทนายพัชก็ได้พยายามติดต่อหาบิ๊กโจ๊กแล้วจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่าเขาขอถอนตัว ขณะเดียวกัน ทนายพัช ได้มีการบอกกับแอมว่า คุณแก้วไว้ใจไม่ได้ จึงไม่ให้แอมบอกอะไรกับคุณแก้ว อีกทั้งยังบอกกับแอมว่าให้ทำตัวสวย ๆ รออยู่ข้างใน เดี๋ยวข้างนอกเขาจะจัดการเคลียร์กับผู้ใหญ่เอง ซึ่งแอมเขาก็เชื่อ เขาไม่รู้เลยว่าโลกภายนอกมันเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกัน แอมมีความวิตกกังวลในเรื่องของไซยาไนด์ ที่มีการซักถามว่าเขาส่งไปเป็นชื่อใคร แต่เขาก็ไม่ยอมบอก ซึ่งมองว่าเขาน่าจะส่งเป็นชื่อของคนในครอบครัวที่เขาพยายามจะปกป้อง นอกจากนี้มีการเก็บเงินค่าทนายความกับแม่ของแอม ก้อนแรกเป็นคดีของก้อยในเรื่องลักทรัพย์ โดยแม่ของแอมจ่ายไป 150,000 บาท อีกก้อน 200,000 บาท คดีพยายามฆ่า เคสของก้อยเช่นกัน
ขณะที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความคืบหน้าคดีตอนนี้สำนวนคืบหน้าไปกว่า 90% กำลังอยู่ในช่วงสรุปสำนวนคดี ซึ่งได้ไล่ดูคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แน่ใจ ขณะที่ตอนนี้ วงพนันเว็บพนันออนไลน์ต่าง ๆ และโรงงานที่เกี่ยวข้องกับคดี อีกทั้งพ่อค้าที่เอาไซยาไนด์มาปล่อยต่อในตลาด เราจะไล่ดำเนินคดีทั้งหมด
สำหรับทนายพัช ที่มีการออกหมายเรียกแทนหมายจับนั้น ยืนยันว่าเรามีหลักฐานเพียงพอ เพียงแต่ศาลท่านพิจารณามาแบบนั้น ทั้งนี้ถ้าหากออกหมายเรียกครั้งที่ 1 แล้วยังไม่มา อาจจะรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับใหม่ สำหรับตอนนี้ทนายพัชแจ้งว่าจะเข้าไปที่กองปราบวันที่ 31 พ.ค. 66
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35