ไขข้อสงสัย บุหรี่ไฟฟ้า ปลอดภัยจริงหรือแค่กระแส?
logo ข่าวอัพเดท

ไขข้อสงสัย บุหรี่ไฟฟ้า ปลอดภัยจริงหรือแค่กระแส?

978 ครั้ง
|
01 ก.พ. 2565

            ในปัจจุบัน อย่างที่เราทราบกันดีว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก อย่างที่ทุกคนอาจจะคุ้นหูกับคำว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นตัวช่วยที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ในขณะนี้ บุหรี่ไฟฟ้า ได้กลายเป็นทางเลือกแรกในการเริ่มทดลองสูบบุหรี่สำหรับ วัยรุ่น ภายใต้ความคิดที่ว่า เท่ห์ สูบได้ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้านั้น สามารถช่วยให้เราเลิกบุหรี่ธรรมดาได้จริงหรือไม่ บุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นอันตรายจริงหรือไม่ และจริง ๆ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าดีกว่าบุหรี่ธรรมดาใช่ไหม วันนี้เรามาร่วมหาคำตอบกันค่ะ

บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยเลิกบุหรี่ได้อย่างที่โฆษณาจริงหรือไม่?

            ปัจจุบันข้อมูลวิจัยทางการแพทย์นั้น ยังไม่ได้มีงานวิจัยที่บอกได้อย่างแน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำให้คนเลิกบุหรี่ได้จริง เช่นกันกับในแง่ของความปลอดภัยที่ก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ทั้งนี้มีตัวอย่างงานวิจัยชิ้นหนึ่งในประเทศอังกฤษทีมีความน่าสนใจ โดยงานวิจัยชุดนี้ได้ทำการนำเอาผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่จำนวน 890 ราย มาแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งให้กลุ่มแรกนั้นทำการเลิกบุหรี่ด้วยการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนอีกกลุ่มให้ทำการเลิกบุหรี่ด้วยการรับยาเลิกบุหรี่ โดยทั้ง 2 กลุ่มเข้ารับการทดลองต่อเนื่อง 3 เดือน ควบคู่กันไปกับการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมเพื่อเลิกบุหรี่ จนกระทั่งครบ 1 ปี ผลปรากฏ กลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลิกบุหรี่ได้ 18% ส่วนในกลุ่มที่ใช้ยาสามารถเลิกบุหรี่ได้ 9.9%

            ซึ่งจากตัวเลขนี้อาจทำให้เราเห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นช่วยเลิกบุหรี่ได้ดีกว่า แต่ทว่าการติดตามผลวิจัยนี้ต่อมาพบว่าใน 18% ของกลุ่มที่เลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า มี 80% กลับไปเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน ส่วนในกลุ่มที่เลิกบุหรี่ด้วยยาพบว่า 90% เลิกบุหรี่ขาดได้เลยและไม่ต้องใช้ยาเลิกบุหรี่อีกด้วย ดังนั้นจากผลวิจัยนี้จึงอาจสรุปได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยเลิกบุหรี่ได้จริง แต่กลายเป็นว่าเราจะหันไปติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งคำถามต่อมาคือ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายจริงหรือไม่? เพราะถ้าอันตรายการหันไปติดบุหรี่ไฟฟ้า ก็อันตรายเช่นกัน

ถ้าอยากเลิกบุหรี่ธรรมดา การหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยได้หรือไม่?

            จุดขายอย่างหนึ่งของบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า คือ การพยายามนำเสนอว่า การหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ธรรมดา ซึ่งถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากกว่า  โดยหยิบยกงานวิจัยต่าง ๆ ที่ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่า และทำให้ผู้สูบลดการสูบบุหรี่ธรรมดาลงได้ ซึ่งงานวิจัยเหล่านี้ภายหลังได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการในวงกว้างแล้วพบว่า เป็นงานวิจัยที่ไม่ได้ทำตามระเบียบวิธีการวิจัยอย่างถูกต้อง มีอคติ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้ทำการวิจัยที่ชัดเจน จึงไม่ได้รับการยอมรับในทางวิชาการอีกต่อไป

            ในขณะที่อีกด้านหนึ่งมีงานวิจัยจำนวนมากกว่าที่ทำอย่างถูกต้อง และให้ผลสรุปในทางตรงกันข้าม คือ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยลดการสูบบุหรี่ธรรมดาลงเลย ร้ายไปกว่านั้นยังทำให้อัตราการสูบบุหรี่โดยรวมทั้งธรรมดาและไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่มีนิโคตินเหมือน ๆ กัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยาวชน การที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่สูบบุหรี่ (ไม่ว่าจะเริ่มจากชนิดไหน) ท้ายที่สุดก็จะมีการแลกเปลี่ยน ทดลองกันภายในกลุ่มจนคุ้นเคยกับทุก ๆ รูปแบบ เพราะเป็นสิ่งที่ทดแทนกันได้ ขณะนี้ในสหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศห้ามอย่างเป็นทางการมิให้บริษัทบุหรี่โฆษณาว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ธรรมดาได้ เพราะขัดกับข้อมูลจากการวิจัยอย่างชัดเจน 

ปลอดภัยจริงหรือไม่ สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเสี่ยงภัยอะไรหรือเปล่า?

            หากเทียบกันตรงๆ แล้ว บุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาทั่วไปถึง95% เพราะบุหรี่ธรรมดานอกจากนิโคตินที่ทำให้ติดแล้ว ยังมีสารอื่นๆ อยู่อีกมากถึง 7,357 ชนิด ซึ่งจากสารทั้งหมดนั้นมีอยู่อย่างน้อย 70 ชนิดที่เป็นสาเหตุสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้แน่นอน แต่สำหรับในบุหรี่ไฟฟ้าก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตรายเลยเพราะก็ประกอบด้วยสารระเหยอื่น ๆ เช่นกัน แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลวิจัยออกมาที่แน่ชัดเหมือนกับบุหรี่ธรรมดาว่าสารใดเป็นอันตรายแค่ไหนอย่างไร อีกทั้งสาเหตุหลักๆ ก็เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีกระบวนการเผาไหม้สันดาป จึงไม่ทำให้เกิดสารทาร์ (Tar) ซึ่งเป็นน้ำมันที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ยาสูบและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เป็นมะเร็งปอด  นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์แบบบุหรี่มวนด้วย จึงปลอดภัยกว่ามาก

            แต่ทั้งนี้ “ควันก็คือควัน” การสูบบุหรี่ไฟฟ้าคือการสูดควันเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะมาจากสารใดก็ตาม ควันคือสิ่งแปลกปลอม สิ่งผิดปกติ ดังนั้นเมื่อสูบเข้าไปในร่างกาย ย่อมอนุมานได้ว่าไม่ดีแน่ ๆ ยิ่งถ้าสูบเข้าไปในปริมาณที่มากและมีระยะเวลาที่นาน จะยิ่งมีโอกาสเกิดอันตรายได้ หรือบางคนแม้จะสูบน้อย แต่ก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับระบบร่างกายของแต่ละคนในการตอบสนองต่อสารนั้น ๆ

            หรือในกรณีที่หลายคนแย้งว่าในบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีนิโคตินน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา ไม่เป็นอันตราย ประเด็นนี้ก็ถือว่าไม่ผิด แต่ถึงแม้บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีนิโคตินน้อยกว่า แต่ถ้าสูบบ่อยกว่า รวมถึงเทคนิคการสูบแบบอัด ก็ทำให้ได้รับปริมาณนิโคตินมากเท่ากับสูบบุหรี่ธรรมดาได้เช่นกัน ซึ่งนิโคตินคือสารให้ความสุขที่ทำให้เรา เสพติด สูบแล้วโล่ง สูบแล้วหายเครียด ทำให้เมื่อเราขาดหรือไม่สูบ จะเกิดอาการกระวนกระวาย และนำสู่การเสพติดที่สุดท้ายก็นำมาซึ่งโอกาสอันตรายได้ในอนาคต เพราะอย่างไรนิโคตินก็ยังเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายของเราอยู่ดี

            ทั้งหมดนี้อาจจะสรุปได้ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนแน่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย 100%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง