เตือน!! กินข้าวแล้วปลอดภัย? งานวิจัยชี้ทานข้าวขาวเสี่ยงเบาหวาน

           งานวิจัยเผย ข้าวขาวหนึ่งถ้วยมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเทียบเท่ากับน้ำหวานถึง 2 กระป๋อง เนื่องจากข้าวขาวมีค่าดัชนีกลีเซมิก (GI) สูงและคาร์โบไฮเดรตจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในร่างกาย ส่งผลให้ตับอ่อนทำงานหนักขึ้น ถ้าหากเกิดเป็นประจำตับอ่อนก็จะมีประสิทธิภาพในการผลิตอินซูลินน้อยลงจึงทำให้เกิดภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ และก่อให้เกิดโรคเบาหวานได้

            งานวิจัยที่จัดทำขึ้นโดย นายซี ยุง หัวหน้าคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพของสิงคโปร์เผยว่า ชาวเอเชียมีแนวโน้มทานข้าวขาวมากกว่าชาวตะวันตก ราว 3 – 4 มื้อต่อวันเทียบเท่ากับ 1 - 2 มื้อต่อสัปดาห์ คนเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงต่อเบาหวานมากที่สุด และยังเผยข้อมูลจำนวนมากที่มาจากงานวิจัย 4 ชิ้น ที่ทำการศึกษากับคนกว่า 350,000 คน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจัดทำโดยวิทยาลัยสาธารณะสุขแห่งฮาร์วาร์ด และตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์อังกฤษ แสดงให้เห็นว่าคนที่รับประทานข้าวขาววันละหลายจานติดต่อกันเป็นประจำเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานถึง 11% เมื่อเทียบจากจำนวนประชากรทั้งหมด

            จากการสำรวจสุขภาพของประชากรไทยโดยสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยเผยข้อมูลในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยมีผู้ที่เป็นเบาหวานจำนวน 4.4 ล้านคน มากเป็นอันดับ 4 รองจาก จีน อินเดีย และญี่ปุ่น แบ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 98 ล้านราย และช่วงอายุ 20 – 64 ปี จำนวน 327 ล้านราย และคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2588 จะมีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 629 ล้านรายทั่วโลก

            ผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอแนะว่า หากต้องการพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต แต่ไม่อยากเสี่ยงกับโรคเบาหวาน ให้ลองเปลี่ยนมาทานข้าวกล้องหรือธัญพืชแทน เพราะนอกจากจะอยู่ท้องได้นานแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย