น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแนวทางการเร่งรัดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม ที่ติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยให้ทุกจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานคร จัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งสัญชาติไทยและมิใช่สัญชาติไทย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้เข้ารับวัคซีนโดยเร็ว เน้นการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงได้ยาก อีกทั้งจัดให้มีการบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ หรือจัดรณรงค์เร่งการฉีดวัคซีน รวมทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มด้วย
ส่วนแนวทางบริหารจัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรที่เข้าถึงยาก นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ร่วมกันบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ดังนี้
1. แรงงานภาคประมง จังหวัดชายทะเล (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบ ศร.ชล.
2. คนประจำเรือไทย หรือผู้ปฏิบัติงานบนเรือไทย ณ บริเวณท่าเรือในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม
3. แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ บ้านนายจ้าง ที่ทั้งขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน มอบ กอ.รมน. กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย
4. แรงงานต่างด้าว ตามชายแดนไทย มอบ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ
5. ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิงสำหรับผู้หนีภัยจากการสู้รบ ราชบุรี กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน ตาก มอบกระทรวงมหาดไทย
6. กลุ่มประชากรอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทั้งหมดในทุกจังหวัด มอบกระทรวงมหาดไทย
สำหรับตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากหมอพร้อม เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2564 ยอดฉีดวัคซีนสะสม 98.5 ล้านเข็ม แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม 50.2 ล้านเข็ม เข็มที่ 2 สะสม 43.8 ล้านเข็ม และเข็มที่ 3 สะสม 4.5 ล้านเข็ม
"นายกรัฐมนตรีขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมมือกันฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ นอกจากจะป้องกันตนเองยังมีส่วนกับรัฐบาลในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรียังมั่นใจว่า ไทยจะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังขอให้ผู้ที่ถึงเวลาที่กำหนด เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย เพื่อทุกคนจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน" นางสาวรัชดา กล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม