แม่ค้าร้อง กู้เงินผ่านแอปฯ 2 หมื่นบาท 7 วัน ดอกเบี้ยพุ่ง 6,840 บาท ซ้ำถูกโทรข่มขู่ทวงหนี้ ระรานถึงคนรู้จัก
logo ข่าวอัพเดท

แม่ค้าร้อง กู้เงินผ่านแอปฯ 2 หมื่นบาท 7 วัน ดอกเบี้ยพุ่ง 6,840 บาท ซ้ำถูกโทรข่มขู่ทวงหนี้ ระรานถึงคนรู้จัก

ข่าวอัพเดท : วันที่ 9 ธ.ค. 64 ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา บางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางวัชรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อาชีพค้า แม่ค้า,ทนายอาสา,กู้เงิน,แอปกู้เงิน,ดอกเบี้ยโหด,มิจฉาชีพ,ข่มขู่,ทวงหนี้

724 ครั้ง
|
10 ธ.ค. 2564
        วันที่ 9 ธ.ค. 64 ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา บางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางวัชรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อาชีพค้าขาย พร้อมด้วยเพื่อนเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อให้ช่วยเหลือ หลังจากกู้เงินสินเชื่อในแอปพลิเคชัน จำนวน 20,000 บาท เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 โดยทางผู้ให้กู้คิดดอกเบี้ย 0.04 % ต่อวัน แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง และถูกข่มขู่คุกคามไปถึงญาติพี่น้อง รวมทั้งคนรอบข้าง จึงมาร้องทุกข์ให้ทนายช่วยเหลือ หลังจากแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองราชบุรี
 
        นางวัชรี เผยว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ขณะกำลังเล่นเฟซบุ๊ก ก็มีแอปพลิเคชั่น ชื่อนกน้อย เด้งขึ้นมา จากนั้นเช้าวันที่ 29 พ.ย. 64 ก็กดเข้าไปดูในแอปฯ มีรายละเอียดเด้งขึ้นมาว่ากู้ 20,000 บาท กู้ได้ 91 วัน ดอกเบี้ย 0.4% ตนเลยกดยอมรับ ทางแอปฯให้ตนกรอกประวัติ ก็กรอกจนครบตามเงื่อนไข จากนั้นผู้ให้กู้ตอบมาว่า ท่านได้การอนุมัติ ตนจึงกด ยอมรับ โดยกู้ทั้งหมด 20,000 บาท แต่ยอดเงินเข้ามา 1,860 บาท เข้ามาในบัญชีมา 6 ครั้ง เป็นเงินรวม 11,160 บาท
 
        ต่อมาจึงไปปรึกษาเพื่อน บอกเพื่อนว่าไม่ได้เป็นตามเงื่อนไข ที่ให้ตนผ่อน 91 วัน แต่ให้ตนคืนเงินภายใน 7 วัน เพื่อนเลยบอกว่าถ้าเราคืนเงินยอดนี้ไป อาจจะไม่จบ แนะนำว่าให้เก็บเงินไว้ก่อน และให้ไปคืนในภายหลังไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เนื่องจากทางเจ้าของเงินที่ให้กู้ได้เอกสารหลักฐานจากตนไปครบหมดทุกอย่าง และยังโทรมาก่อกวนโทรไปหาพ่อของตน และต่อว่าพ่อว่า ทำไมเลี้ยงลูกเป็นแบบนี้ กู้ตังค์ไปแล้วทำไมไม่คืน ตอนนี้ตนกลับมาคิดไม่น่ากดรับเลย ตนอยากจะคืนเงินทั้งหมดให้กับทางคนที่ให้กู้
 
          ล่าสุดเขาโทรมาให้ตนคืนเงินจำนวน 3,000 บาท โดยแบ่งเป็นโอนทั้งหมด 6 ครั้ง 6 บัญชี ภายใน 7 วัน รวมแล้วเป็นเงิน 18,000 บาท ซึ่งตนได้เงินมาวันที่ 29 พ.ย. 64 จำนวน 11,160 บาท แต่ต้องจ่ายคืนภายใน 7 วัน โดยต้องจ่ายคืนในวันที่ 6 ธ.ค. 64 เป็นเงิน 18,000 บาท เท่ากับตนต้องเสียดอกภายใน 7 วัน เป็นเงิน 6,840 บาท และตอนนี้ตนโดนโทรทวงหนี้ทุกวัน โทรหาทุกคนที่ตนมีเบอร์ในเครื่องโทรศัพท์ โทรหาพ่อ โทรหาน้อง โทรหาเพื่อน ตนอยากจบเรื่องนี้โดยการคืนเงินให้ทุกบาทที่ทางผู้ให้กู้โอนเงินมา แต่กลัวว่าโอนเงินไปแล้วจะไม่จบ วันนี้ตนจึงได้เดินทางเข้ามาพบทนายโป้ง เพื่อหาทางออกและให้ช่วยเหลือ
 
         ด้าน นายเกียรติคุณ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เสียหาย พบต้องจ่ายดอกเบี้ย 6,840 บาท ภายใน 7 วัน จากการกู้เงิน 20,000 บาท ตกดอกเบี้ยวันละกว่า 1,000 บาท และยังมีการโทรมาข่มขู่ ดูจากข้อมูลข้อเท็จจริงมีความผิดกฎหมายหลายบท เบื้องต้นคือเรื่องของการประกอบกิจการให้กู้ยืมเงินรายย่อย ซึ่งไม่รู้ว่ามีใบอนุญาตหรือเปล่า ถ้าไม่มีใบอนุญาต ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องไปดูว่าผิดกฎหมายหรือเปล่า แต่ตนเชื่อว่าไม่มีใบอนุญาต
 
         นอกจากนี้ยังเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด และเป็นเรื่องของการประกอบธุรกิจ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การทวงหนี้ คือทวงไปหมด ระรานข่มขู่คุกคามคนที่รู้จักทั้งหมด โฆษณาไว้สวยหรู 20,000 บาท ภายใน 91 วันคืนเงิน แต่พอกู้จริงได้แค่หมื่นกว่าบาท และต้องคืนภายใน 7 วัน น่าจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นการเอาข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ ที่สำคัญคือ ข้อหาฉ้อโกง ถ้ามีผู้เสียหายหลายคน และวัตถุประสงค์ของการทำทำเพื่อให้กระจายไปให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วไป จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
 
            อย่างไรก็ตาม ฝากหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศ ตำรวจไซเบอร์ ช่วยลงมาดูด้วย คิดเอาข้าวดอกเบี้ยประมาณ 40% ต่อ 7 วัน และขอเตือนพี่น้องประชาชนคนไทยที่ได้รับความลำบาก ถ้าอยากจะกู้เงินให้ไปหาสถาบันการเงินที่อยู่ในระบบ อันไหนที่อยู่นอกระบบ อย่าไปทำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง