ไม่รอดเพราะกลับมาหาเมีย รวบชายหื่น ข่มขืนด.ญ. หนีคดีนาน 19 ปี พบอีก 5 เดือนคดีจะหมดอายุความ
logo ข่าวอัพเดท

ไม่รอดเพราะกลับมาหาเมีย รวบชายหื่น ข่มขืนด.ญ. หนีคดีนาน 19 ปี พบอีก 5 เดือนคดีจะหมดอายุความ

ข่าวอัพเดท : วันที่ 7 พ.ย. 64 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รายงานจับกุมนายฤทธิชัย อายุ 35 ปี ชาว จ.เพชรบุรี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว ชายหื่น,ข่มขืน,เด็กหญิง,หนีคดี,คดีหมดอายุความ,กลับมาหาเมีย

2,039 ครั้ง
|
08 พ.ย. 2564
        วันที่ 7 พ.ย. 64 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รายงานจับกุมนายฤทธิชัย อายุ 35 ปี ชาว จ.เพชรบุรี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี ลงวันที่ 28 พ.ย.2559 ความผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย"
 
         สืบเนื่องจากนายฤทธิชัยฯ ได้ก่อเหตุใช้กำลังบังคับข่มขืน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เมื่อปี 2545  เมื่อทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งความ นายฤทธิชัยฯ จึงได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปทำงานและอาศัยอยู่ที่อื่นโดยจะเปลี่ยนที่อยู่ตลอดไม่เป็นหลักแหล่งและจะแอบเดินทางมาที่บ้านเกิดเป็นบางครั้งครั้งละไม่กี่วัน และจะไม่ออกไปไหนเพื่อไม่ให้ใครพบเห็น
 
       ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.3 กก.5 (พิษณุโลก) บก.ทล. และ ส.ทล.2 กก.8 (รามอินทรา) บก.ทล. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี ก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิง อายุ 15 ปี ทราบชื่อ คือ นายฤทธิชัยฯ กำลังกลับบ้านภรรยาที่จังหวัดพิษณุโลกชุดติดตามจึงได้ประสานชุดปฏิบัติการเพื่อสกัดจับผู้ต้องหา กระทั่งพบรถยนต์ที่ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อตรวจสอบ
 
      พบนายฤทธิชัยฯ เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งลักษณะตรงกับบุคคลตามหมายจับและขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับหรือไม่ จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ
 
        จากการสอบถาม นายฤทธิชัยฯ ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ที่ผ่านมา ตนเองจะระวังตัวเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมได้ โดยหลบหนีคดีมาได้เป็นเวลา 19 ปี 7 เดือน  เหลือเวลาอีกแค่เพียง 5 เดือน คดีจะหมดอายุความ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทำการจับกุมตัวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป