วันที่ 17 ส.ค.2564 รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ พูดคุยเกี่ยวกับประเด็น หนุ่มอนาคตไกลโดนคนเมาแล้วขับซิ่งรถชนจนพิการ แต่ไม่ได้รับการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใดโดยมีผู้ร่วมรายการคือ นายวัชระ ฉลาดถ้อย ผู้เสียหายที่ถูกรถยนต์พุ่งชนจนขาพิการ,ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ,มาลา ฉลาดถ้อย แม่ผู้เสียหาย และ จริน ฉลาดถ้อย พ่อผู้เสียหาย
นายวัชระ ฉลาดถ้อย ผู้เสียหายที่ถูกรถยนต์พุ่งชนจนขาพิการ ผ่านไป 3 ปี คู่กรณีไม่รับผิดชอบ เผยว่า ปัจจุบันรักษามาเป็นเวลา 3 ปีกระดูกขายังไม่สมานกันดี มีการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อกระดูกไปปลูกถ่ายเพื่อให้กระดูกทำงาน และมีการใส่เหล็กเข้าไปในขา ซึ่งการรักษาตอนนี้ล่าช้าไปเพราะติดสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันยังไม่สามารถเดินได้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาหมดไปร่วม3ล้านกว่าบาท
ก่อนหน้านี้มีงานประจำเป็นพนักงานขายที่มีรายได้ค่อนข้างดีแต่หลังเกิดอุบัติเหตุเหมือนอนาคตดับวูบไปเลย จากที่เป็นเสาหลักของครอบครัวตอนนี้ต้องมาพึ่งพาพ่อแม่ สำหรับการรับผิดชอบค่าเสียหายของคู่กรณี ครั้งแรกที่เขาติดต่อมา เราเรียกค่าเสียหายไปล้านห้า เราก็ยินยอมแล้วเขาก็หายไปจนนำไปสู่กระบวนการศาล ไกล่เกลี่ยเหลือ 2 ล้านบาท แต่คู่กรณีจ่ายมาแค่ 3 หมื่นบาทเท่านั้น
จากหลักฐานในกล้องวงจรปิดพบว่า คุณวัชระได้ช่วยคนไว้ถึง 2 คน ซึ่งตอนเกิดเหตุได้บอกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นว่ามีรถมาเพราะตัวเองเห็นแสงไฟรถ คนตรงนั้นได้กระโดดหลบทัน แต่ตัวเองต้องมาโดนรถชนด้วย ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียหาย 5 คน ซึ่งคู่กรณีผู้ก่อเหตุมาเยี่ยมไม่กี่ครั้งและทุกครั้งที่มาเยี่ยมก็จะถ่ายรูปเพื่อเอาไปแถลงต่อศาลว่าได้มาเยี่ยมพร้อมกับกระเช้าเยี่ยม ซึ่งคดีความไกล่เกลี่ยจะหมดการไกล่เกลี่ยในปีหน้านี้
ด้าน มาลา และ จริน ฉลาดถ้อย แม่พ่อผู้เสียหาย เผยว่า ตอนแรกลูกชายบอกว่าเกิดอุบัติเหตุไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงและเชื่อว่าลูกบาดเจ็บแค่เล็กน้อย แต่เมื่อไปเยี่ยมที่รพ.ก็พูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นสภาพลูก ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไรต่อ
ที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่มีไกล่เกลี่ยคดีความ คุณพ่อจะเป็นคนไปขึ้นศาลแทน ก็ได้แต่รับฟังจากคู่กรณี ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุเขาไม่เคยมาขอโทษอะไร เคยพูดแต่ว่าเดี๋ยวหาเงินมาให้ เพราะเขาทำงานเป็นนายหน้าขายที่ดิน ขายได้แล้วจะเอาเงินมาให้ โดยในนัดไกล่เกลี่ยรอบหน้า คู่กรณีอ้างว่าจะชดใช้ค่าเสียหายอีก7หมื่นบาท ถ้าไม่มีให้ค่าเสียหายก็คิดว่าจะให้ศาลอ่านคำพิพากษาเลยดีกว่า แต่ถ้าเอาเงินมาให้ ก็ต้องรอเลื่อนไปจนถึงวันตัดสิน
ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เผยว่า คดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาเนื่องจากจำเลยได้กระทำความผิดฐานเมาแล้วขับ รวมถึงกระทำโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งตอนนี้ศาลน่าจะยังไม่ตัดสินคดีอาญา และรอฟังผลการชำระหนี้ก่อนตัดสินพิพากษาคดี
แนะนำว่าให้ผู้เสียหายแถลงต่อศาลไปเลยว่า ผู้ก่อเหตุไม่สนใจในการชดใช้ค่าเสียหาย ก็ร้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาได้เลย แต่คำตัดสินก็ต้องอยู่ในดุลยพินิจของศาลด้วย ถ้าศาลอ่านคำพิพากษาแล้วยังไม่ชดใช้ ไม่สำนึกผิด ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดีต่อไป ถ้าตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินก็สามารถยึดทรัพย์มาชดใช้ได้ ถ้ามีการโอนชื่อระหว่างที่เกิดก็สามารถแจ้งดำเนินคดีต่อในฐานฉ้อโกงเจ้าหนี้ได้ด้วย ซึ่งจะมีขั้นตอนการสืบทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ทางรายการได้ติดต่อไปทางคู่กรณีผู้ก่อเหตุ ได้อ้างว่าเป็นสถานการณ์โควิด-19 และไม่สามารถทำงานให้เกิดรายได้ เนื่องจากการทำมาหากินโดนระงับหมด ซึ่งในศาลนัดหน้านั้นก็อยากให้ศาลพิจารณาตามดุลยพินิจ และก่อนหน้านี้ได้มีการทยอยจ่ายค่าเสียหายของคู่กรณีคนอื่นก่อนหน้านี้ไปบ้างแล้ว ส่วนตอนนี้กำลังเร่งหาเงินเพื่อเอาไปชดใช้ ตอนนี้ยังไม่รู้เพราะยังหาเงินไม่ได้เลย ซึ่งส่วนตัวก็เข้าใจว่าเขาลำบาก และยืนยันว่าไม่ทิ้ง แต่ตอนนี้มันไม่มีเงินจริงๆ
สรุปผลโหวตหลังจบรายการ
หนุ่มรายนี้จะได้รับเงินชดใช้เยียวยาหรือไม่?