จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ไข่ไก่ในระบบมีปริมาณไม่เพียงพอ และอาจจะมีผู้ฉวยโอกาสกักตุนไข่ไก่ และปรับราคาขายปลีกไข่ไก่สูงขึ้น นั้น
วันนี้ (11 ก.ค.64) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยันว่า ความต้องการไข่ไก่ของประชาชนในช่วงโควิดระบาดเพิ่มสูงขึ้นจริง โดยเฉพาะในห้างค้าปลีก ความต้องการซื้อสูงขึ้นกว่าตามตลาดสด ซึ่งเรื่องนี้กรมการค้าภายในได้หารือกับ กรมปศุสัตว์และองค์กรผู้เลี้ยงไก่ไข่ โดยกรมปศุสัตว์ได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ยืดอายุการปลดแม่ไก่ยืนกรงออกไปจากเดิมปลดที่ 75 สัปดาห์ เป็นปลดที่ 85-90 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้มีไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 42 ล้านฟองต่อวัน เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของประชาชน
ส่วนสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ และสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง ซึ่งช่วยตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไว้ที่ไม่เกิน 3.00 บาท/ฟอง ตั้งแต่ช่วงการระบาดรุนแรงรอบเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา เพื่อให้ราคาขายปลีกทรงตัว รวมถึงยืนยันจะจำหน่ายไข่ไก่เข้าสู่ช่องทางตลาดเดิมที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่ายก่อนเป็นลำดับแรก คือผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง และ ตลาดสด
และจากการลงพื้นที่สำรวจภาวะการค้าปลีกไข่ไก่ พบว่า ภาวะการค้าในตลาดสดชะลอตัวลงมาก จากข้อกังวลของผู้บริโภคที่รับทราบข่าวการปิดตลาดสด โดยประชาชนส่วนใหญ่ได้หันไปจับจ่ายซื้อหาสินค้าจำเป็นรวมถึงไข่ไก่ในห้างค้าปลีกค้าส่งเพิ่มขึ้น สำหรับปัญหาความล่าช้าของการขนส่งสินค้าเพื่อกระจายเข้าสาขาของห้าง ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ได้รับการยืนยันจากทุกห้างว่า ได้ปรับวิธีการขนส่งกระจายสินค้าให้คล่องตัวขึ้น และ ไข่ไก่ไม่ขาดแคลน ปริมาณที่วางจำหน่ายมีเพียงพอกับลูกค้าของห้าง ทั้งนี้ ราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 ในตลาดสดอยู่ที่ 3.60-3.70 บาทต่อฟอง หรือ 108-110 บาทต่อถาด (30 ฟอง) ซึ่งทุกห้าง จะมีไข่ไก่ในบรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษจำหน่ายในราคาใกล้เคียงกับตลาดสด เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนผู้บริโภค
ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจและคลายความวิตกกังวลในเรื่องปริมาณและราคาไข่ไก่ ซึ่งกรมฯ ได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งกรมปศุสัตว์ องค์กรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และห้างค้าปลีก-ค้าส่ง บริหารจัดการการกระจายสินค้าให้ทั่วถึงและมีปริมาณที่เพียงพอ รวมถึงช่วยพยุงราคาขายต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาด้านภาระค่าครองชีพของประชาชน และขอเตือนผู้ที่กักตุนไข่ไก่ และตั้งราคาขายปลีกสูงขึ้นเกินสมควร ซึ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชนให้เดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีก โดยพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ต้องระวางโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ หากประชาชนผู้บริโภค พบเห็นผู้ประกอบการรายใด ที่มีพฤติกรรมกักตุนสินค้าหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสูงเกินควร โปรดแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายทันที
+ อ่านเพิ่มเติม