โฆษก กห. ยัน นายกฯ ได้สั่งถอนงบเรือดำน้ำปี 65 โดยให้ยืดเวลาออกไป เพื่อชะลอการจัดซื้อ พร้อมเตรียมนำงบฯ ส่วนนี้ไปบริหารจัดการสูงสุด ย้ำการจัดซื้อ เป็นไปตามโครงการตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาล ต่อ รัฐบาล วอนอย่านำข้อมูลไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง
วันที่ 18 ก.ค.64 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกระกลาโหม (กห.) กล่าวถึงกรณีการจัดหาเรือดำน้ำของ กองทัพเรือว่า ความจริงเรื่องนี้ กห.ได้หารือร่วมกันอย่างต่อเนื่องถึง เหตุผลความจำเป็นของการเสริมสร้างกำลังทางทะเลรับมือกับสภาพแวดล้อมภัยความมั่นคง โดยเฉพาะมิติใต้น้ำที่เรามีความสามารถจำกัด เพื่อรักษาดุลภาพความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 253 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้กลับไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำ หรือยืดเวลาออกไปก่อน โดย กห.ได้เห็นถึงปัญหาภาระงบประมาณและความจำเป็นเร่งด่วนในการบริหารจัดการงบประมาณของประเทศ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติและประชาชนภาพรวมในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในปี 2563 และ ปี 2664 ที่ผ่านมา ทร.ได้ส่งคืนงบประมาณ จำนวน 3,375 ล้านบาท และ 3,425 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาล สามารถบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ตามความจำเป็นเร่งด่วน
สำหรับในปี 2565 กห.ได้ประเมินร่วมกันแล้วว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังคงอยู่และมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จึงสั่งการไปแล้ว ให้ กห.โดย ทร.พิจารณาถอนแผนงานงบประมาณโครงการเรือดำน้ำออกไปก่อน โดยให้หารือกับ กห.จีน ถึงเหตุผลความจำเป็น ที่ต้องขอชะลอโครงการในปีนี้ออกไปจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โฆษก กห.กล่าวยืนยันว่า โครงการจัดหาเรือดำน้ำของ ทร. เป็น โครงการตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาล ต่อ รัฐบาล ( G to G ) ที่ กห.ของทั้งสองประเทศมีความร่วมมือกันโดยตรงตามข้อตกลงและโปร่งใส ไม่ผ่านคนกลางหรือบริษัทนายหน้าอื่นใด โดยที่ผ่านมา ทร.ได้ติดต่อตรง กับ กห.และ ทร.จีน ผ่านช่องทางทางการทูตเท่านั้น จึงขอให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสังคมและไม่อยากให้มีการแสวงประโยชน์จากกลุ่มใดๆ หรือการใช้ประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งอาจเกินเลยไปกระทบความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
+ อ่านเพิ่มเติม